xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง! หลุมศพชาวโรฮิงญา 30 หลุม บนยอดเขาชายแดนไทย-มาเลเซีย คาดเสียชีวิตจากอาการป่วย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบแคมป์ และสุสานฝังศพชาวโรฮิงญา 30 หลุม บนยอดเขาชายแดนไทย-มาเลเซีย คาดเสียชีวิตจากอาการป่วยระหว่างถูกนำตัวมากักไว้รอส่งไปยังประเทศที่ 3
   

วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง นำโดย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจ สภ.สะเดา ทหารร้อย ร.5021 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ตำรวจกองปราบ และฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 100 นาย ทั้งในพื้นที่ อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่

ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบแคมป์ที่พักชาวโรฮิงญาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากสันปันน้ำฝั่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ประมาณ 300 เมตร ลักษณะยังเป็นป่าดิบ มีการเปิดพื้นที่ตั้งแคมป์ชั่วคราวประมาณ 2 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้าง 39 หลัง แยกเป็นโรงนอน 26 หลัง ที่เหลือเป็นโรงครัว ที่อาบน้ำ ห้องน้ำ รวมทั้งหอคอยสังเกตการณ์ ลักษณะเป็นแคมป์เก่าถูกสร้างมานาน บางหลังเหลือเพียงโครงไม้ ห่างจากแคมป์ออกไปประมาณ 50 เมตร พบว่า ถูกแผ้วถางสำหรับใช้เป็นสุสานฝังศพ เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ แบบเดียวกับหลุมฝังศพของชาวมุสลิม มีการน้ำไม้ และปลูกต้นไม้มาปักหัวท้ายหลุมฝังศพเพื่อเป็นเครื่องหมาย ซึ่งมีทั้งหลุมใหม่ และเก่าประมาณ 30 หลุม และยังพบคันหามศพที่สร้างแบบง่ายๆ โดยใช้กระสอบมาขึงกับไม้วางอยู่ด้วย

 
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในแคมป์ยังพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในแคมป์ 1 ราย เป็นชายทราบชื่อคือ นายคูตันซา คาดเสียชีวิตราว 1-2 วัน และนอนล้มป่วยอยู่ ในแคมป์เป็นชายอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานทั้งเสื้อผ้า และเครื่องใช้ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในแคมป์ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการสอบสวน

หลังเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่บริเวณโดยรอบเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการขุดหลุมศพ จำนวน 5 หลุม แต่พบศพเพียง 4 ศพ ซึ่งลักษณะศพที่พบเสียชีวิตมาหลายวันเริ่มเน่า ส่วนหลุมศพมีทั้งขุดลึกลงไปตั้งแต่ความลึกระดับหัวเข่า 1 เมตร และ 2 เมตร แต่ต้องยุติการขุดชั่วคราวเพราะเกรงว่าอาจจะทำลายหลักฐานต้องรอให้เจ้าหน้าที่นิติเวชเข้าตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลก่อน ส่วนศพทั้ง 4 ศพ ได้ส่งไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อรอการพิสูจน์

 
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบหลุมฝังศพ จำนวน 30 หลุม แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีศพอยู่กี่ศพ และต้องมีการขุดศพขึ้นมาตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการตาย โดยได้ประสานไปยังฝ่ายนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 
เบื้องต้น คาดว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากอาการป่วย หรือสภาพร่างกายอ่อนแอ ระหว่างที่ถูกนำมาพักอยู่ที่แคมป์เพื่อรอการส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 เนื่องจากลักษณะเป็นแคมป์เก่า ห่างจากฝั่งรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซียเพียง 300 เมตร และเป็นเพียงแคมป์เดียวในบริเวณนี้หลังจากที่ทหารออกลาดตระเวนก็ไม่พบชาวโรงฮิงญาเพิ่มเติม เป็นการนำมาพักไว้ชั่วคราวก่อนส่งไปยังประเทศที่ 3 ส่วนในทางคดีเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนในรายละเอียดของที่มาที่ไปของชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ รวมทั้งกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการลักลอบนำเข้ามา

 
ด้าน พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเชิงลึกของขบวนการนำชาวโรฮิงญาเข้าใน จ.สงขลา มีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ แต่เป็นลักษณะของการนำเข้ามา และกักไว้ชั่วคราวเพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว โดยแคมป์ที่พบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นของกลุ่มใด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น