ชาวบ้านไร้ที่ทำกินฯ ลุกฮือ! ปิดล้อม จนท.รัฐ หลังนำกำลังรื้อถอนบ้านในสวนปาล์ม

กระบี่ - ชาวบ้านจากสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกินที่ยึดสวนปาล์ม บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ลุกฮือ!! ปิดล้อมเจ้าหน้าที่ หลังนำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนบ้านที่ปลูกในสวนปาล์ม พร้อมเตรียมรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด

เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกินซึ่งเป็นกลุ่มที่บุกยึดสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ ม.4 และม.9 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ประมาณ 200 คน ได้เข้าปิดล้อมแปลงเพาะพันธุ์ปาล์มของบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ ม.9 ต.กระบี่น้อย เนื่องจากไม่พอใจทางบริษัทที่ไปดำเนินการรื้อถอนที่พักอาศัยชั่วคราวของกลุ่มฯ โดยบริษัทอ้างว่า ที่บริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิถูกต้อง และเคยไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว

สำหรับผู้ที่ถูกกลุ่มฯปิดล้อม ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลกระบี่น้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนงานบริษัท โดยทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ ดูแลความสงบเรียบร้อย และเป็นพยานในการรื้อถอนที่พักอาศัยชั่วคราวดังกล่าว ทำให้กลุ่มมวลชนไม่พอใจ และทำการปิดล้อมเจ้าหน้าที่

ต่อมา นายมานะ จรุงเกียรติขจร นายอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วย ผกก.สภ.เมืองกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจให้ยุติการปิดล้อม โดยได้สนธิกำลังฝ่ายทหาร ตำรวจ และสมาชิก อส. ร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งผลการเจรจากลุ่มมวลชนยินยอม และได้ยุติการปิดล้อมในเวลา 17.00 น.

นายสุมนตรี สุขดำ นายกสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านได้ปิดล้อมเจ้าหน้าที่ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองกระบี่ กำนัน ต.กระบี่น้อย และผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.กระบี่น้อย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งได้นำรถไถเข้ามาทำการรื้อถอนบ้านเรือนของกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกินที่ปลูกอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันของ บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด เพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานของภาครัฐนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่คนที่ไม่มีที่ดินทำกิน เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ที่ดินที่บริษัทฯ ได้เข้าไปทำประโยชน์ ผิดเงื่อนไข

ล่าสุด ทางจังหวัดได้มีการเพิกถอน ส.ป.ก.ของบริษัทดังกล่าวแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการสำรวจตรวจสอบแนวเขต เพื่อนำมาจัดสรรให้แก่คนจน แต่ไม่รู้ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองกระบี่ บางคนใช้สิทธิอะไรมารื้อถอนบ้านเรือนของสมาชิกฯ เสียหายจำนวนกว่า 20 หลังคาเรือน ซึ่งดูแล้วเหมือนกับทำงานให้แก่นายทุน โดยชาวบ้านได้ปลูกสร้างบ้านอยู่กันมากว่า 1 ปี 8 เดือน และว่า ขณะนี้กำลังให้สมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวต่อไป