ตรัง - นายสถานีรถไฟตรัง วอนสังคมอย่าโทษแต่การรถไฟฯ กรณีเกิดเหตุชนรถยนต์ติดต่อกัน 2 ครั้งซ้อนใน 2 วัน เพราะได้พยายามดูแลถนนทุกจุดตัดเป็นอย่างดีแล้ว ทั้งนี้ ผู้ใช้รถเองก็ต้องระมัดระวังด้วย ย้ำทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เผยยังคงมีประชาชนมาใช้บริการรถไฟตามปกติ และมียอดจองตั๋วยาวไปช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ (27 มี.ค.) นายวิรัตน์ คงดี นายสถานีรถไฟตรัง กล่าวถึงเหตุการณ์ที่รถไฟกรุงเทพฯ-ตรัง ประสบอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ บริเวณถนนพาดรถไฟ 2 จุด 2 วันซ้อน ในพื้นที่จังหวัดตรัง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางถามถึงระบบรักษาความปลอดภัยของรถไฟ โดยตนยอมรับว่าบริเวณจุดตัดรถไฟที่มีอยู่กว่า 70 จุดในพื้นที่ ยังไม่มีเหล็กกั้น แต่ทุกจุดก็มีเครื่องหมายจราจร ทั้งป้ายเตือน ป้ายระวัง และสัญญาณไฟกะพริบ นอกจากนั้น ตามกฎหมายแล้วผู้ที่ขับขี่รถจะต้องหยุดอย่างน้อย 5 เมตร ก่อนถึงจุดตัด อีกทั้งพนักงานขับรถไฟก็จะเปิดเสียงหวูดเสมอเมื่อถึงถนนจุดตัด และขับขี่ด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ผู้ใช้รถต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบก่อนขับข้ามผ่านจุดตัดไปเพื่อความปลอดภัยด้วย
สำหรับการแก้ปัญหานั้นคงต้องร่วมมือกันหลายหน่วย ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย หรือทางหลวงชนบท จะให้ลำพังการรถไฟฯ ฝ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายก็ระบุชัดเจนว่า ผู้ที่มาหลังต้องเป็นผู้ดูแล เนื่องจากถนนพาดรถไฟหลายจุดเกิดขึ้นมาภายหลังแล้ว จึงขอให้อย่าโทษแต่การรถไฟฯ เพียงฝ่ายเดียว และย้ำว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทั้งฝ่ายหน่วยงานทางการ และประชาชนผู้ใช้ถนน ทั้งนี้ ตนไม่ได้หมายความว่าอยากให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน และพนักงานการรถไฟฯ ทุกคนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเป็นเหตุสุดวิสัยก็ต้องยอมรับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีประชาชนมาใช้บริการรถไฟปกติตาม และมียอดจองตั๋วยาวไปถึงวันที่ 20 เมษายน ช่วงเทศกาลสงกรานต์