xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้ป่าโก-ลก จ.นราฯ 1 สัปดาห์ ยังไม่ดับ! หมอกควันเริ่มกระทบสุขภาพประชาชน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - ความคืบหน้ากรณีไฟไหม้พื้นที่ป่าสวนยางพาราสวนปาล์ม และสวนผลไม้ของชาวบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขณะนี้ไฟลุกไหม้นานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้พื้นที่ป่าพรุได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 80 ไร่ ซ้ำร้ายหมอกควันไฟยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นักผจญเพลิงเผยลมกระโชกแรงทำไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก


วันนี้ (5 มี.ค) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวนกว่า 100 นาย ได้กระจายกำลังกันใช้เครื่องสูบน้ำ ทำการสูบน้ำจากร่องน้ำบางจุดที่พอยังมีน้ำขังอยู่ทำการฉีดน้ำบริเวณจุดเพลิงไหม้ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งการสนธิกำลังการปฏิบัติร่วมกันของเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ตลอด 2 วันที่ผ่านมา สามารถควบคุมต้นเพลิงที่อยู่ชั้นใต้ดินบริเวณแนวรัศมีรอบนอกของจุดเพลิงไหม้ได้แล้วประมาณ 1 ใน 4 ส่วนของพื้นที่ที่ไฟกำลังคุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งอุปสรรคที่เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญในการดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ คือ เมื่อมีกระแสลมแรงพัดกระโชกจะทำให้ไฟที่คุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ดินได้ลุกโชนขึ้นมาบริเวณผิวดินอีกครั้งเป็นจุดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการหวนกลับมาฉีดน้ำดับไฟซ้ำ

 
ซึ่งจากการประเมินการทำงานของชุดดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ ที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดการณ์ว่า จะสามารถควบคุมเพลิงไหม้ป่าในครั้งนี้ได้ในระยะเวลา 1 สัปดาห์นั้น คงจะไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากชุดที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ได้มีการประเมินผลการปฏิบัติในช่วง 1 วันที่ผ่านมา พบอุปสรรคปัญหาของลมที่พัดกระโชกแรงที่ทำให้ไฟคุกรุ่นชั้นใต้ดินกับมาลุกโชนอีกครั้ง

รวมทั้งแหล่งน้ำบางจุดที่ไปสำรวจเกิดการแห้งขอด เจ้าหน้าที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการขุดหาแหล่งน้ำใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้เครื่องสูบน้ำทำการสูบน้ำไปฉีดจุดที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากไม่มีความชำนาญ และประสบการณ์ ในการดับไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างชุดดับไฟป่าของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาเป็นตัวหลักในการดำเนินการดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ ก่อนจะเพลิงไหม้จะลุกลามมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน



กำลังโหลดความคิดเห็น