นราธิวาส - เหตุไฟไหม้ป่าสวนยางพารา สวนผลไม้ และสวนปาล์มของชาวบ้านโต๊ะลือเบ ม.5 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไฟยังไม่ดับแม้จะผ่านมาเป็นเวลานาน 8 วันติดต่อกัน และควันไฟได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านแล้ว 4 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบริเวณจุดเพลิงไหม้ วันนี้ (2 มี.ค.) พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าพรุ ที่ต้นเพลิงซึ่งอยู่ใต้ดินยังคงคุกรุ่นอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีจุดต้นเพลิง จำนวน 2 จุด ทางด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออก โดยพื้นที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ไร่ และจากสภาพพื้นที่ดังกล่าวยังพบว่า แนวร่องน้ำที่ชาวบ้านได้ขุดดินขึ้นไปถมในการปลูกพืชต่างๆ นั้น ก็อยู่ในสภาพแห้งขอดไม่มีน้ำอยู่เลย จึงเป็นผลทำให้ต้นเพลิงที่อยู่ชั้นใต้ดินได้ลุกลามกินพื้นที่ไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่เกิดลมแรง ก็จะทำให้ต้นเพลิงที่อยู่ใต้ดินจะลามลุกขึ้นเป็นเปลวไฟด้านบน แถมยังส่งผลทำให้ควันไฟได้แพร่กระจายเต็มบรรยากาศบนท้องฟ้า สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง
และจากการประเมินพบว่า เพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังคงจะลุกลามไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่ท่าว่าจะมอดลงหากฝนไม่ตกลงมา ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยรถไม่สามารถที่จะแล่นถึงจุดเกิดเหตุ และสามารถกระทำได้เพียงใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก สูบน้ำภายในร่องสวนอีกผืนหนึ่งเข้ามาดับไฟเพียงพื้นที่จำกัดเท่านั้น
ส่วนชาวบ้านครอบครัวหนึ่งซึ่งอยู่ละแวกจุดเพลิงไหม้ ซึ่งมีบุตรสาวเล็กๆ อยู่ 2 คน เปิดเผยต่อทีมข่าวว่า เวลาลมพัดควันไฟมารบกวนก็ปิดประตูหน้าต่างอยู่ภายในบ้าน แต่เมื่อมีควันไฟมากก็จะขี่รถจักรยานยนต์พาลูกสาว 2 คน มาอาศัยอยู่บ้านเพื่อนในเขตเทศบาล