ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท พานาโซนิค สาขาขอนแก่น คนงานนับพันหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าสกัด โกดังเก็บสินค้าวอดทั้งหมด คาดมูลค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เผยสาเหตุเบื้องต้น ไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 11.30 น.วานนี้ (3 ธ.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่โกดังเก็บชิ้นส่วนอิเล๊กทรอนิกส์ที่ประกอบเสร็จแล้วเพื่อเตรียมส่งไปประกอบยังโรงงานใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่บริเวณเครนที่ใช้ยกสิ่งของในโกดัง จากนั้นได้ลุกลามอย่างเร็ว เพราะเป็นชิ้นส่วนพลาสติกที่ติดไฟง่าย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครขอนแก่น ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าระดมฉีดน้ำ แต่เนื่องจากโกดังที่เกิดเหตุเป็นโกดังที่ปิดทึบ จึงทำให้ยากต่อการควบคุมเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการสกัดเพลิงอยู่กว่า 5 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก วงจรอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด รวมทั้งแร่ทองแดงและแร่เงินที่ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย มีบางส่วนที่ขนออกมาได้ทัน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้ 5 คน เนื่องจากสำลักควันไฟ แยกเป็นพนักงานของโรงงาน 3 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 คน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่โรงงาน ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและชาวบ้านเข้าไปถ่ายภาพในระยะใกล้ โดยกันให้อยู่ด้านนอก เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ส่วนพนักงานที่เข้าเวรในกะเช้ากว่า 2,000 คน ทางโรงงานได้ให้พนักงานตอกบัตรและนำรถโดยสารมารอรับกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เพราะสภาพภายในโรงงานมีกลิ่นเหม็นของพลาสติกที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ต่อมานายสุชัย บุตรสาระ นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้เดินทางตรวจสอบบริเวณโรงงานที่เกิดเหตุพบว่าอาคารเก็บสินค้าได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้ง ในวันนี้ (4 ธ.ค.) ขณะที่ปัญหามลพิษที่ชาวบ้านหวาดกลัว จากการออกตรวจสอบยังไม่พบชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ มีเพียงกลิ่นเหม็นจากควันขณะที่เกิดเพลิงไหม้เท่านั้น มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางบริษัทประเมินอีกครั้ง
สำหรับบริษัทพานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาขอนแก่น เป็นโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของผลิตภัณฑ์พานาโซนิคทุกชนิด โดยเปิดโรงงานมานานกว่า 10 ปี มีพนักงานกว่า 4,000 คน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบนเครนที่ใช้ติดตั้งบนหลังคาโรงงาน จากนั้นประกายไฟได้ตกลงใส่กล่องกระดาษจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกลามไหม้อาคารเสียหายทั้งหมด
น.ส.ณัฐพร แสงโพธิ์ ชาวบ้านบ้านคำใหญ่ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งพักอยู่ใกล้โรงงานห่างประมาณ 300 เมตรเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิด 2-3 ครั้งก่อนจะได้กลิ่นคล้ายยางไหม้ จึงออกมาดูพบว่าโรงงานเกิดไฟไหม้ มีควันพวงพุ่งออกมาจากตัวอาคาร 1 ซึ่งเป็นโกดังเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
นายทรงชัย โลหิตชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 6 กล่าวภายหลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ว่า ไฟได้ลุกไหม้ฉนวนหลังคาชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นพลาสติก โฟมและกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เก็บอยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วและเกิดกลุ่มควันหนา ทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเจาะหลังคาและใช้เครื่องดูดควันให้นักผจญเพลิงเข้าดับเพลิงด้านใน
ทั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีนักผจญเพลิงของโรงงานและเทศบาลได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ส่วนใหญ่สำลักควัน และถูกกระจกบาด
เมื่อเวลา 11.30 น.วานนี้ (3 ธ.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่โกดังเก็บชิ้นส่วนอิเล๊กทรอนิกส์ที่ประกอบเสร็จแล้วเพื่อเตรียมส่งไปประกอบยังโรงงานใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่บริเวณเครนที่ใช้ยกสิ่งของในโกดัง จากนั้นได้ลุกลามอย่างเร็ว เพราะเป็นชิ้นส่วนพลาสติกที่ติดไฟง่าย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครขอนแก่น ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าระดมฉีดน้ำ แต่เนื่องจากโกดังที่เกิดเหตุเป็นโกดังที่ปิดทึบ จึงทำให้ยากต่อการควบคุมเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการสกัดเพลิงอยู่กว่า 5 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก วงจรอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด รวมทั้งแร่ทองแดงและแร่เงินที่ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย มีบางส่วนที่ขนออกมาได้ทัน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้ 5 คน เนื่องจากสำลักควันไฟ แยกเป็นพนักงานของโรงงาน 3 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 คน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่โรงงาน ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและชาวบ้านเข้าไปถ่ายภาพในระยะใกล้ โดยกันให้อยู่ด้านนอก เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ส่วนพนักงานที่เข้าเวรในกะเช้ากว่า 2,000 คน ทางโรงงานได้ให้พนักงานตอกบัตรและนำรถโดยสารมารอรับกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เพราะสภาพภายในโรงงานมีกลิ่นเหม็นของพลาสติกที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ต่อมานายสุชัย บุตรสาระ นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้เดินทางตรวจสอบบริเวณโรงงานที่เกิดเหตุพบว่าอาคารเก็บสินค้าได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้ง ในวันนี้ (4 ธ.ค.) ขณะที่ปัญหามลพิษที่ชาวบ้านหวาดกลัว จากการออกตรวจสอบยังไม่พบชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ มีเพียงกลิ่นเหม็นจากควันขณะที่เกิดเพลิงไหม้เท่านั้น มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางบริษัทประเมินอีกครั้ง
สำหรับบริษัทพานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาขอนแก่น เป็นโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของผลิตภัณฑ์พานาโซนิคทุกชนิด โดยเปิดโรงงานมานานกว่า 10 ปี มีพนักงานกว่า 4,000 คน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบนเครนที่ใช้ติดตั้งบนหลังคาโรงงาน จากนั้นประกายไฟได้ตกลงใส่กล่องกระดาษจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกลามไหม้อาคารเสียหายทั้งหมด
น.ส.ณัฐพร แสงโพธิ์ ชาวบ้านบ้านคำใหญ่ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งพักอยู่ใกล้โรงงานห่างประมาณ 300 เมตรเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิด 2-3 ครั้งก่อนจะได้กลิ่นคล้ายยางไหม้ จึงออกมาดูพบว่าโรงงานเกิดไฟไหม้ มีควันพวงพุ่งออกมาจากตัวอาคาร 1 ซึ่งเป็นโกดังเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
นายทรงชัย โลหิตชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 6 กล่าวภายหลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ว่า ไฟได้ลุกไหม้ฉนวนหลังคาชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นพลาสติก โฟมและกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เก็บอยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วและเกิดกลุ่มควันหนา ทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเจาะหลังคาและใช้เครื่องดูดควันให้นักผจญเพลิงเข้าดับเพลิงด้านใน
ทั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีนักผจญเพลิงของโรงงานและเทศบาลได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ส่วนใหญ่สำลักควัน และถูกกระจกบาด