ตรัง - ถึงแม้ยางพาราจะประสบปัญหาราคาตกต่ำ แต่คุณลุงวัย 60 ปี เจ้าของรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี 2552 กลับไม่สนใจ เดินหน้าทำไร่นาสวนผสมจนได้เงินปีละนับล้านๆ บาท พร้อมเปิดสวนเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้เกษตรกรคนอื่นๆ ยึดตามเป็นแบบอย่าง
นายไม ไกรสุทธิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 2 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งได้รับรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2552 ได้เปิดบ้านไร่นาสวนผสมพื้นที่ของตนเอง จำนวน 5 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรจากทั่วทุกภูมิภาคเข้าไปเรียนรู้กระบวนการทำไร่นาสวนผสม ซึ่งแม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่กลับสามารถทำเงินได้มากถึงปีละนับล้านๆ บาท โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพายางพาราที่กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ นายไม หรือลุงไม จะใช้พื้นที่ที่มีอยู่ข้างบ้านปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก ทั้งการปลูกผัก ปลูกผลไม้ เลี้ยงปลา และทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง เสมือนกับการสร้างตู้เย็นไว้ในครัว ซึ่งไร่นาสวนผสมของเขาเคยได้รับรางวัลดีเด่นมาแล้วมากมายจนนับไม่ถ้วน จนปัจจุบันมีเกษตรกรจากทุกจังหวัดจองคิวเข้าศึกษาดูงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กันเป็นจำนวนมาก ขณะที่เขาเองก็ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นวิทยากรตามโรงเรียนต่างๆ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
นอกจากนั้น พืชผักผลไม้ทุกชนิดที่ปลูกลงไปในพื้นที่ 5 ไร่ ยังปลอดสารเคมี และสามารถส่งขายได้ตลอดทั้งปี โดยมีพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับซื้อถึงบ้านในตำบลนาชุมเห็ด ขณะเดียวกัน นายไม หรือลุงไม ยังคิดค้นพืชผักผลไม้แบบแปลกๆ รวมทั้งมีการเสียบยอดต้นมะขวิด ให้ออกลูกเป็นมะนาวในต้นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการปลูกหญ้าแฝกที่ได้มาจากหลายๆ จังหวัด เพื่อทดสอบคุณภาพน้ำ และป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
เจ้าของรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี 2552 กล่าวว่า เดิมพื้นที่ของตนและเพื่อนบ้านเมื่อปี 2518 เป็นทะเลทราย และปี 2524-2538 เป็นนาร้าง เนื่องจากถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอย่างหนัก แต่ตนกลับมาพลิกฟื้นโดยเดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนนำวัสดุเหลือใช้มาปรับใช้อย่างรู้คุณค่า เป็นการลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนรุ่นหลังได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง จนทำให้พื้นที่แค่ 5 ไร่ แต่สามารถสร้างรายได้ให้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000-25,000 บาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท