ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรตัวอย่างใน จ.สงขลา คิดค้นการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้ดินแทนการใช้น้ำ ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นธรรมชาติมากกว่า และยังสามารถปลูกหมุนเวียนในแปลงเดียวได้ถึง 3 ครั้ง ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
นายคำนึง นวลมณีย์ เกษตรกรดีเด่นของ จ.สงขลา ปราชญ์ด้านการเกษตรของ อ.จะนะ และยังเป็นหัวศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง คิดค้นการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้ดิน ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่จนประสบความเสร็จ จากปกติทั่วไปที่ปักในฟองน้ำ และปลูกในรางน้ำ และมีวิธีการดูแลที่ค่อนข้างซับซ้อน และยุ่งยาก แต่การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้ดินแทนทำได้ง่าย และสะดวกกว่า รวมทั้งให้ผลิตที่ได้คุณภาพ และเป็นธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากได้รับแร่ธาตุจากดินโดยตรง
สำหรับวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้ดินของ คุณคำนึง โดยรวมจะใช้วัสดุและอุปกรณ์ชุดเดียวกับปลูกในน้ำ ประกอบด้วย โครงสร้างเหล็ก ผ้ายางคลุมกันแดด มุ้งกันแมลง กระเบื้องสำหรับทำเป็นแปลงผัก ส่วนวิธีการทำให้ใช้ดิน 1 ส่วน และแกลบ 3 ส่วนมาผสมกัน รองพื้นด้วยใบไผ่ นำดินมาใส่ในแปลงปลูกซึ่งเป็นกระเบื้องลอนคู่รองด้วยผ้ายาง เจาะรูระบายน้ำขนาดแปลงปลูกกว้าง 1 เมตร ยาว 4 เมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของแปลงผักไฮโดรโปนิกส์
ส่วนการปลูกมี 2 วิธีคือ สามารถนำเมล็ดพันธุ์ผักไปปลูกในแปลงได้เลย หรือจะแยกเพาะเมล็ดแล้วนำต้นกล้ามาปลูกในแปลง ซึ่งหนึ่งแปลงจะปลูกได้ 4 แถว และถ้าให้ดีระหว่างแถวควรปลูกต้นกล้าสำรองเอาไว้เพื่อทดแทนต้นที่ตาย
นายคำนึง กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลผักไฮโดรโปนิกส์แบบปลูกในดินเน้นการให้ปุ๋ยชีวภาพ และน้ำหมกในช่วงสัปดาห์แรกของการปลูก จากนั้นก็ให้ปุ๋ยเป็นระยะตามความเหมาะสมรวมทั้งรดน้ำพรวนดินเหมือนผักทั่วๆ ไป และดูแลเรื่องแมลง ซึ่งสามารถปลูกผักได้ทุกชนิดโดยเฉพาะผักสวนครัว หรือผักตลาด เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักสลัดม่วง ปวยเล้ง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ซึ่งถ้าเป็นผักสวนครัวทั่วไปจะขายได้ประมาณแปลงละ 400-600 บาท ส่วนผักพิเศษ เช่น ผักสลัดม่วง จะขายได้แปลงละ 1,000 บาท ที่สำคัญผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้ดินสามารถปลูกหมุนเวียนได้ถึง 3 ครั้งในแปลงเดียว แต่ต้องสลับชนิดผักที่ปลูก ในขณะที่แปลงผักไฮโดรโปนิกส์แบบใช้น้ำ 1 ปี ปลูกได้สูงสุดเพียงแค่ 10 ครั้งเท่านั้น
