ผู้ว่าฯ ตากนำทีมดับวุ่นไฟป่าโหมไหม้ใกล้ ม.ราชภัฏแม่สอด-รีสอร์ตใหญ่กลางดึก

ตาก - ผู้ว่าฯ เมืองตากต้องลุกสั่งการเองกลางดึกหลังเกิดไฟป่าโหมไหม้ข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏแม่สอด ห่างรีสอร์ตใหญ่แค่ 100 เมตร

วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีการจุดไฟเผาป่าลุกลามอย่างรวดเร็วบริเวณป่าสัก ข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏแม่สอด บ้านหนองบัว ถ.สายเอเชีย ต.แม่ปะ อ.แม่สอด ห่างจากรีสอร์ตขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเพียง 100 เมตรเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

จึงพร้อมด้วยนายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด, พ.อ.อาสาฬหะ พูลสุวรรณ รอง ผบ.ฉก.ร.4 แม่สอด, นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ไปอำนวยการดับไฟป่า โดยนำรถดับเพลิงจากเทศบาลฯ ฉก.ร.4 ควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้

นายสมชัยฐ์กล่าวว่า มาเห็นเหตุไฟไหม้แล้วคิดว่าจะต้องแบ่งโซนการทำงานของท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกระทรวงทรัพย์ฯ ที่รับผิดชอบพื้นที่หน่วยที่มีรถน้ำทั้งหมดต้องบูรณาการกัน เพราะคืนนี้เรารู้จุดบอดเพราะหน่วยที่อยู่ใกล้เช่นไฟป่าทำไมออกมาช้า หน่วยงานที่อยู่ไกลกลับมาถึงก่อน จะต้องมีการชี้แจงสาเหตุ เราจะปล่อยไม่ได้เนื่องจากปีนี้ร้อนและแล้ง ต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด

หลังสกัดไฟป่าจุดดังกล่าวไว้ได้ นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ยังได้มอบเงินเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หรือดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดด้วย

อย่างไรก็ตามคืนที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุสะเก็ดไฟเผาไร่อ้อยพื้นที่กว่า 100 ไร่ ได้ปลิวไปตกใส่อาคารที่พักนักเรียนต่างด้าวสัญชาติพม่า เลขที่ 720 หมู่ที่ 4 ใกล้ถนนตัดใหม่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ทำให้เกิดไฟไหม้ฉับพลันจนอาคารไม้ มุงหลังคาด้วยใบตองตึง 3 หลัง ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด

ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในละแวก ต้องช่วยกันอพยพนักเรียนชาวเมียนม่าร์ ราว 100 คน ไปยังจุดปลอดภัย โดยไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงสามามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงได้ไหม้ที่พักนักเรียนดังกล่าวเสียหายทั้งหมดแล้ว

พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำฉีดรอบศูนย์การเรียนรู้ ซีดีซี. หรือศูนย์การเรียนรู้เด็กด้อยโอกาสของแพทย์หญิงซินเธีย หม่อง แพทย์อาสาสมัครชาวพม่า เจ้าของคลินิกแม่ตาว และเจ้าของรางวัลด้านสังคมระดับโลก รวมทั้งเจ้าของอาคารห้องพัก เนื่องจากไฟไหม้ไร่อ้อยเป็นบริเวณกว้าง

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้นำเจ้าของไร่ และคนที่เผาไร่ไปสอบปากคำแต่อย่างใด และก่อนหน้านี้มีการเผาไร่อ้อยมาตลอด ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และรถยนต์ที่เดินทางไปมา แม้นทางจังหวัดตาก จะออกมาตรการประกาศห้ามเผาเด็ดขาด แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืน และไม่มีการจับกุมมาดำเนินคดีสักรายเดียว