ระนอง - จังหวัดระนอง สนใจศึกษาดูงานฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อน้อมนำแนวทางมาส่งเสริมเป็นอาชีพเสริมช่วยเหลือเศรษฐกิจในครัวเรือน
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายธนิต กุลสุนทร นายอำเภอเมืองระนอง นำประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองระนอง เดินทางไปศึกษาดูงานการเพาะปลูกสาหร่ายพวงองุ่น เนื่องจากจังหวัดระนอง เป็นเมืองชายฝั่งทะเลอันดามันมีสภาพที่เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับสาหร่ายพวงองุ่นเป็นสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง เป็นพืชที่อาศัยอยู่ในทะเล ลักษณะโดยทั่วไปขึ้นเป็นเดี่ยวๆ พบบริเวณชายฝั่งในเขตน้ำขึ้น-ลง หรือแอ่งน้ำขัง เกาะกับก้อนหิน ปะการัง ลำต้นคืบคลานไปตามพื้น และแตกแขนงได้ ซึ่งส่วนของแขนงตั้งตรงสูง 1-6 ซม. มีใบ หรือรามูลัสเล็กๆ ทรงกลมคล้ายผลองุ่นสีเขียว มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1.5-2 มม. มีก้านสั้นๆ เรียงกันคล้ายพวงองุ่น จะอยู่ในระดับน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร ชาวบ้านที่อยู่ตามชายฝั่งนิยมไปเก็บสาหร่ายพวงองุ่นนำมาบริโภคในพื้นที่ แต่ไม่แพร่หลายเท่าไรนัก
จากการวิจัยพบว่า สาหร่ายพวงองุ่นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน ไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกัน และรักษาโรคคอพอก แมกนีเซียม ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ และระบบประสาท โพแทสเซียม ช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์ และสมดุลของน้ำในร่างกาย รวมทั้งพบวิตามินบี ซี อี และกรดอะมิโนจำเป็นหลากหลายชนิดที่ไม่พบในพืชบก ถึงแม้จะมีรสเค็มแต่ปริมาณเกลือต่ำ ปราศจากไขมัน เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
แต่ปัจจุบัน สาหร่ายพวงองุ่นในธรรมชาติมีน้อย ทางฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดเพชรบุรี จึงได้ส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะเลี้ยงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว เพราะปัจจุบันราคาจำหน่ายในท้องตลาดกิโลกรัมละ 70 บาท
ส่วนวิธีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นนั้น ต้องหาสาหร่ายมาจากธรรมชาติจำนวน 1 กก. ใส่ในตะกร้าขนาด 25x45 ซม. แช่ลงในน้ำทะเลที่เป็นแอ่งน้ำขัง ใช้เวลา 1 เดือนโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ย สามารถเก็บขายได้แล้ว ปัจจุบันมีตลาดในพื้นที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ หากมีปริมาณที่เพียงพออาจขยายตลาดสู่เมืองท่องเที่ยว และจังหวัดอื่นต่อไปในอนาคต
สาหร่ายพวงองุ่น นับเป็นพืชน้ำที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะสามารถปรุงเป็นเมนูอาหารที่หลากหลายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ควรอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามันให้เพาะเลี้ยงเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ต่อไป
