นครศรีธรรมราช - เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เดือด “เสนพงศ์” หมดบารมี ส.ท.ลาออกยกเขต “ซัดขาดภาวะผู้นำ” เตรียมสาวไส้ในสภา “เชาว์นวัศน์” โต้อ้างเชิญออกเอง อัดมีพวกขี้อิจฉาหลัง คสช.ต่ออายุตำแหน่ง
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช สมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีฯ เขต 4 จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายสรพงษ์ คงสำราญ นายวิฑูรย์ หัสภาค นายประสิทธิ์ วงศ์วิศาล นายเคารพ อิสสระไพบูลย์ นายธีระวัฒน์ คงสำราญ และนายอาวุธ สุขันทอง ได้แถลงการณ์ลาออกจากทีม เชาว์นวัศน์ โดยมี นายวิฑูรย์ หัสภาค เป็นผู้แถลงโดยระบุว่า สมาชิกสภาเทศบาลทั้ง 6 คน เป็น ส.ท.ในทีมเชาว์นวัศน์ หรือ ผศ.เชาว์นวัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ร่วมทำงานกันมากว่า 3 ปี ท่ามกลางความอึดอัดในการทำงานมาโดยตลอด และวันนี้ได้มีการประกาศลาออกจากทีมเชาว์นวัศน์ เนื่องจาก นายกฯ เชาว์นวัศน์ มีการบริหารงานที่ไม่ยึดหลักการธรรมาภิบาล
ทั้งที่ได้แถลงไว้หลายโครงการที่มีความจำเป็นต่อประชาชนได้อนุมัติผ่านไปหลายๆ โครงการมีความล่าช้า ไม่สามารถแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนได้จนต้องถูกยุบเลิกไปอย่างน่าเสียดาย และการบริหารงานถือว่าขาดภาวะความเป็นผู้นำที่ดี ไม่มีความแน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จึงรับไม่ได้อีกแล้ว จำเป็นต้องออกมายืนเคียงข้างประชาชน และประกาศให้ประชาชนในเขตเทศบาลได้รับรู้ว่าที่ออกมานั้นเพราะรับไม่ได้ต่อการขาดภาวะผู้นำที่ดี เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ไม่ยึดหลักธรรมมาภิบาลในการบริหาร ส.ท.กลุ่มนี้ระบุ
ในปีงบประมาณ 2558 สมาชิกทั้ง 6 คน ได้ออกสำรวจพื้นที่ และสรุปเสนอโครงการเล็กโครงการน้อย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนประมาณ 20 โครงการ รวมงบประมาณ 21 ล้านบาท แต่ถูกตัดทิ้งหมด แต่มีการใส่โครงการปรับปรุงผิวการจราจรถนนกะโรม 18 ล้าน เข้ามาแทนเพียงโครงการเดียว ซึ่งเป็นโครงการที่ ส.ท.ไม่รู้ตัวมาก่อน จนนำไปสู่การโหวตล้มโครงการดังกล่าวในสภา เพราะโครงการนี้มีการวางแผนเกี่ยวกับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง ซึ่งกลายเป็นข่าวโด่งดัง และยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนเหมือน 20 โครงการที่ถูกตัดไป
ที่สำคัญ ในวันที่ 11 ก.พ.2558 จะมีการประชุมสภาเทศบาล ในเวลา 13.00 น. แต่ในเวลา 11.00 น. ส.ท.กลุ่มธรรมาภิบาล จะแถลงข่าวการลาออกจากทีม “เชาวน์วัศน์” เพิ่มเติม รวมทั้งการแถลงแนวทางการคัดค้านโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ของฝ่ายบริหาร และยืนยันว่าสภาเทศบาล จะไม่มีวันอนุมัติโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่โปร่งใส่อย่างเด็ดขาด จึงขอให้สื่อมวลชน และประชาชนเฝ้าติดตามการประชุมสภาเทศบาลซึ่งจะมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น
ต่อมา หลังจากที่ทราบนายว่ากลุ่ม ส.ท.ในทีมได้ประกาศตัวออกจากทีมชัดเจนแล้ว ผศ.เชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช พี่ชายของนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดแถลงข่าวทันทีด้วยสีหน้า และน้ำเสียงที่ค่อนข้างเคร่งเครียด แต่พยายามบอกว่าไม่มีความเครียด มีความสุขดีไม่รู้จะเครียดทำไม ก่อนที่จะเปิดฉากแถลงว่า ได้เชิญให้สมาชิกเหล่านี้ออกจากทีมไปก่อนหน้าแล้ว เนื่องจากไม่เข้าร่วมประชุมสภา ไม่ใช่สภาล่ม และยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของการเมืองที่มีการกลั่นแกล้ง และมีมีการอิจฉากันจากที่ คสช.ต่ออายุให้ผู้บริหารอีก 1-2 ปี ตระกูลผมไม่เคยอาฆาตใคร ทั้งยังมีการขัดขวางไม่ให้ผมแก้ปัญหาประปาให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กลุ่ม ส.ท.ที่ประกาศแยกตัวออกมาจากทีมของผู้บริหารรายนี้แล้วถึง 14 คน จากทั้งหมด 24 คน ขณะที่การตรวจสอบจากหลายฝ่ายยังเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มีการตรวจสอบงบปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช 13.4 ล้านบาท ด้วยวิธีพิเศษมีการส่งมอบงานเพียง 2 เดือนกลับพบความชำรุดอย่างหนัก ซึ่งอาจมีการสรุปผลภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และยังมีอีกหลายโครงการที่เน้นการจัดจ้างวิธีพิเศษ เช่น เสาป้ายซอยที่มีราคาต้นละเกือบ 2 หมื่นบาท เสาไฟฟ้าส่องสว่างกลางถนนกะโรม ที่ใช้เพียงก้านเสา ส่วนโคมไฟ และฐานเป็นของเก่าทั้งหมดมีราคาต้นละราว 1 แสนบาท หรือเสาไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก จนถูกมองว่าเป็นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย หรือใช้จ่ายงบที่แพงเกินจริงหรือไม่ และเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่