เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นางคอนโดลีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงของสหรัฐฯ ออกโรงจวก รัฐบาลบารัค โอบามา “สุดหน่อมแน้ม” ในการจัดการกับสถานการณ์ในอิรัก และยังมีภาวะผู้นำที่ “อ่อนปวกเปียกในเวทีโลก” จนนานาชาติพากันหันหลังและไม่มีใครฟังเสียงของอเมริกาอีกต่อไป
ไรซ์ วัย 59 ปี ที่เข้ารับตำแหน่งในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เปิดใจในการบันทึกเทปสัมภาษณ์กับ “ฟอกซ์ นิวส์” ที่นำมาออกอากาศในวันจันทร์ (10 พ.ย.) โดยระบุว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของบารัค โอบามา กำลังทำให้สหรัฐฯ ก้าวถอยหลังในเวทีโลกอย่างเลวร้าย
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลโอบามาดำเนินนโยบายผิดพลาดหลายอย่าง โดยเฉพาะการก่อความตึงเครียดด้วยการเผชิญหน้ากับรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของวลาดิมีร์ ปูติน รวมถึงการจัดการกับปัญหาในอิรักและซีเรียที่ไร้ประสิทธิภาพ จนส่งผลให้โลกต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหม่จากกลุ่มนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (ไอเอส)
นอกจากนั้น ไรซ์ยังโจมตีว่า บารัค โอบามาได้แสดงออกถึงภาวะผู้นำที่ “อ่อนปวกเปียกในเวทีโลก” จนนานาประเทศพากันหันหลังและไม่มีใครฟังเสียงของสหรัฐฯ อีกต่อไป
“ดิฉันคิดว่าชาวอเมริกันพร้อมแล้ว และประชาคมโลกก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับภาวะผู้นำที่เข้มแข็งกว่านี้ของสหรัฐอเมริกาหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในอีก 2 ปีข้างหน้า” ไรซ์กล่าว
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงของสหรัฐฯ ยังระบุว่า การถือกำเนิดของกลุ่มไอเอสและความวุ่นวายในอิรักเวลานี้ เป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของโอบามาในการถอนทหารอเมริกันกลับบ้านเร็วเกินไป ในขณะที่รัฐบาลและกองกำลังความมั่นคงอิรักยังไม่มีขีดความสามารถที่เข้มแข็งพอในการรับมือภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย และพวกนักรบหัวรุนแรง
ท่าทีล่าสุดของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงผู้นี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกมาแถลงยืนยันเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่าจะเพิ่มจำนวนทหารอเมริกันในอิรักอีกราว 1,500 นายเพื่อช่วยอิรักต่อกรกับกลุ่มไอเอส