นครศรีธรรมราช - ข้าราชการชั้นผู้น้อย และผู้ที่รู้เห็นการนำทรัพย์สินราชการของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เข้าเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาใช้ในงานปรับปรุงสนามกีฬากลาง เรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบเร่งเข้าทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งการ “จัดจ้างวิธีพิเศษ” ที่อาจไม่ได้เนื้องานที่มีคุณภาพ ผู้บริหารบางรายหยามเรื่องร้องเรียนถูกรายงานถึงหูตลอด
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความคืบหน้าของการติดตามตรวจสอบโครงการปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรองรับการจัดแข่งขันกีฬา อปท.โซนภาคใต้รอบคัดเลือก โดยการดำเนินการโครงการนั้นพบว่า นอกจากมีการจัดจ้างแบบวิธีพิเศษอย่างเร่งรีบ รวมทั้งคุณภาพ และความไม่ปกติของเนื้องานนับตั้งแต่การปรับปรุงพื้นที่สนามฟุตบอล การปูหญ้า และอีกหลายส่วน นอกจากนั้น ยังมีข้อพิรุธบางประการถึงขั้นเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ส่งรถบรรทุกน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องจักรกลของเทศบาล พร้อมด้วยคนงานเข้าให้การช่วยเหลือเอื้อในงานของผู้รับเหมา ทั้งที่ทรัพยากรดังกล่าวนั้นเป็นของทางราชการ และไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ทำเช่นนี้
ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่คลิปภาพขณะที่มีการนำรถบรรทุกน้ำของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยคนงานเข้าช่วยเหลือทำงานในเขตงานของผู้รับเหมาเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างแบบวิธีพิเศษไม่ต้องผ่านการประกวดราคาในการปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหลักฐานสำคัญที่ข้าราชการชั้นผู้น้อย และผู้ที่รู้เห็นในการนำเอาทรัพย์สินทางราชการมาเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับเหมา เรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบเข้าทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีการนำเอาเครื่องจักร รวมทั้งบุคลากรที่กินเงินเดือนของเทศบาล ไปเอื้อต่อการทำงานของเอกชนที่มีการจัดจ้างไปแล้ว โดยในส่วนนี้มีงบประมาณสูงถึงกว่า 13 ล้านบาท แต่พบว่า การปรับปรุงหลายส่วนอาจไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะลู่วิ่งยางโพลิเมอร์ที่มีการฉีดสเปรย์ยางทับของเก่าแบบง่ายๆ สำหรับคลิปดังกล่าวนั้นได้ถูกบันทึกเมื่อเวลา 10 นาฬิกาเศษของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับการบันทึกภาพนิ่งโดยที่ยังไม่มีองค์กรตรวจสอบใดๆ เข้าใช้อำนาจหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบโครงการดังกล่าวอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานจากภายในหลังจากที่มีข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปว่ามีการเรียกประชุมติดตาม และเตรียมการแข่งขันกีฬา อปท.ที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันในเร็วๆ นี้ ผู้บริหารบางคนมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมีอารมณ์โกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด โดยกล่าวโทษว่า คนภายในเป็นคนแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบ และเป็นผู้บันทึกภาพให้ผู้สื่อข่าวด้วย และยังแสดงถึงวุฒิภาวะผู้นำในทำนองว่า ไม่ว่าใครจะร้องเรียนไปยัง สตง. หรือที่ไหน เขาฉีกเรื่องทิ้งหมด สตง.แจ้งผมตลอดใครร้องเรียนเขาฉีกทิ้งหมด ซึ่งได้สร้างความอึดอัดให้แก่ข้าราชการ และบุคลากรที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และยังประหลาดใจว่าเหตุใดถึงกล่าวแสดงอำนาจถึงองค์กรตรวจสอบเช่นนี้อย่างเปิดเผยในที่ประชุม
นอกจากนั้น มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่กลายเป็นข่าวเผยแพร่ถึงกรณีการบันทึกภาพไว้ได้ขณะที่มีการนำเอาทรัพย์สินของทางราชการไปเอื้อต่อการทำงานของผู้รับเหมาชนิดคาหนังคาเขา กลับกลายเป็นข่าวที่ได้สร้างกระแสของการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนี้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในบุคลากรของเทศบาลเอง ที่ติดตามการทำหน้าที่มาโดยตลอด แต่ทุกอย่างเป็นไปแบบไม่เปิดเผยเนื่องจากเกรงส่งผลกระทบต่อหน้าที่ ขณะที่ประชาชนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งต่อเนื้อหาข้อมูลข่าวสารผ่านระบบสังคมออนไลน์ของชาวนครศรีธรรมราช
