นครศรีธรรมราช - เจ้าพนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เข้าสอบสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้วิธีเจาะสำรวจชั้นดินหลังพบพิรุธในการปรับปรุงสนามด้วยงบกว่า 13 ล้าน 4 แสนบาท หากเข้าข่ายทุจริต เตรียมเรียกเงินคืนจากท้องถิ่นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
วันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เจ้าพนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบสนามฟุตบอล และลู่วิ่งยางโพลิเมอร์ เนื่องจากพบความผิดปกติในความเสียหายอย่างรุนแรงหลังจากส่งมอบงานไปได้เพียงไม่ถึง 2 เดือน โดยสนามฟุตบอล มีสภาพหญ้าไม่สมบูรณ์ และเมื่อขุดเจาะชั้นดินพบว่า เป็นดินแดง หรือดินลูกรังที่แข็งไม่สามารถระบายน้ำได้ โดยหลายจุดมีสภาพแตกระแหง และไม่ราบเรียบตามมาตรฐานสนามฟุตบอลที่ใช้งบประมาณสูงเช่นนี้
ขณะที่กรรมการผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย รายหนึ่งแจ้งว่า สนามฟุตบอลในสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพที่ดินแข็งกระด้าง ซึ่งหากมีการแข่งขันในระดับชาติ หรือระดับดิวิชัน 1 สนามเช่นนี้จะไม่ผ่านการอนุญาตให้แข่งขันจากผู้ตรวจสอบสนาม เนื่องจากหากมีการแข่งขันจะส่งผลให้นักกีฬาบาดเจ็บได้อย่างรุนแรง
“งบประมาณ 13.4 ล้านบาท เป็นงบที่สามารถสร้างความเป็นมาตรฐาน เป็นสนามกีฬาที่ทีมชาติ หรือทีมที่อยู่ในดิวิชัน 1 สามารถมาลงเล่นได้ แต่สนามนี้ยืนยันว่า หากผู้ตรวจสอบสนามก่อนการแข่งขันเข้าตรวจสอบนั้นยืนยันว่า ไม่ผ่านแน่นอน เพราะจะเกิดผลเสียต่อนักกีฬา ค่าใช้จ่ายในการแข่งขันฟุตบอลในส่วนของผู้ตรวจสอบ กรรมการ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นมีไม่ต่ำกว่านัดละ 25,000 บาท ผู้ตรวจสอบไม่เอาวิชาชีพมาทิ้งในสนามแบบนี้แน่ๆ ส่วนฟุตบอลดิวิชัน 2 หรือต่ำกว่านั้นคงพอที่จะเล่นไปได้ตามชั้น” กรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลรายนี้กล่าว
นายพงศ์ปณต สนิท เจ้าพนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบโดยผู้ที่มีความรู้จากหลายฝ่าย โดยหากพบว่าผิดนั้นจะต้องดูต่อไปว่ามีเจตนาอย่างไร ถ้าเจตนาทุจริต และงานที่รับมอบแล้วไม่สามารถใช้การจะต้องเรียกเงินคืนทั้งหมด และผู้รับผิดชอบจะต้องถูกดำเนินการทางอาญา
นอกจากนั้น ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่มีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นั้นพบว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้คอยบันทึกภาพอยู่ห่างๆ โดยไม่เข้าใกล้คณะผู้ตรวจสอบ และหลบไปนั่งอยู่ในรถยนต์ของทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช คอยบันทึกภาพ และโทรศัพท์เป็นระยะๆ ตลอดเวลา
ส่วนของลู่วิ่งยางโพลิเมอร์ที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบนั้น สตง.พบข้อบ่งชี้บางอย่างที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา และเตรียมที่จะตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในประเด็นที่ว่ามีการฉีดยางเหลวพ่นทับลู่วิ่งเดิมโดยไม่ถูกขั้นตอน และมาตรฐานหรือไม่ โดยทุกอย่างจะต้องรอผลการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนี้ราว 1 เดือนจะมีข้อสรุป
ขณะเดียวกัน ยังพบอีกว่าผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช แสดงความไม่พอใจในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น โดยล่าสุด ได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสนามกีฬาแห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่รายนี้ได้ลาออกทันที และพร้อมให้ข้อมูลต่อทุกฝ่ายหลังจากที่พ้นความรับผิดชอบจากหน้าที่
