นราธิวาส - “ร้านอายุบ” ร้านข้าวแกงเก่าแก่ใน อ. สุไหงโก-ลก จ.นราฯ ยังขายข้าวห่อในราคา 10 บาท สวนทิศทางเศรษฐกิจ ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค ขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 50 ปี เจ้าของร้านเผยพอใจกำไรห่อละ 2 บาท ชี้สามารถสร้างรายได้จนสามารถส่งลูกจบในระดับปริญญาตรีทุกคน
วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ร้ายอายุบ” ตั้งอยู่บนถนนวรคามินทร์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเปิดเป็นร้านขายข้าวแกง และน้ำชา เปิดมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงปัจจุบันรวมกว่า 50 ปีแล้ว โดยปัจจุบันนี้ยังคงมีกลุ่มลูกค้ามาเลือกรับประทานอาหาร และน้ำที่ร้านเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากที่ร้านยังคงขายราคาข้าวแกงห่อละ 10 บาทเท่านั้น ขณะที่ร้านค้าอื่นๆ ขายข้าวในราคาห่อละ 30-40 บาท
นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ เจ้าของร้านอายุ เปิดเผยว่า ร้านอายุ เป็นเจ้าแรกที่นำข้าวห่อราคา 10 บาท มาจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ซึ่งร้านดังกล่าวได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา กว่า 50 ปี เน้นขายข้าวห่อราคา 10 บาทเป็นหลัก มีแม่ค้าขาประจำ จำนวน 25 ราย ที่ส่งข้าวห่อมาขาย รวมแล้วกว่า 1,200 ห่อต่อวัน และมีกับข้าวให้เลือกรับประทานกว่า 30 รายการ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามความชอบ โดยทางร้านจะได้กำไรห่อละ 2 บาท ซึ่งถือว่าพอใจแล้ว เพราะครอบครัวของตนยึดปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามที่สอนให้รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ กล่าวเสริมอีกว่า ในอดีตราคาอาหารของร้านเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ห่อละ 1 ถึง 2 บาท แพงที่สุดคือ ห่อละ 3 บาท ขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว จนสามารถส่งลูกๆ ให้ได้รับการศึกษาจนจบในระดับปริญญาตรีทุกคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจุบันค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น ทางร้านจึงได้ขึ้นราคาข้าวห่อ เป็นห่อละ 10 บาท แต่ราคาดังกล่าวก็ยังต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ที่ราคาอาหารปรับสูงขึ้นเป็น30-50 บาทแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อ เนื่องจากปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ประกอบกับราคายางพาราที่เป็นอาชีพหลักของประชาชนในพื้นที่ตกต่ำ ทำให้ต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้น ข้าวห่อราคา 10 บาทของทางร้านจึงก็เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในพื้นที่
สำหรับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ทั้งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนในวันศุกร์ ชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จะแวะมาซื้อไปรับประทานด้วยเช่นกัน