ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกษตรจังหวัดภูเก็ตหนุนเกษตรกรในพื้นที่ตำบลเทพกระษัตรี พลิกผืนนาร้างทำแปลงผักบุ้งปลอดภัยป้อนตลาด เกษตรกรร่วมโครงการแล้ว 16 ราย สร้างรายได้เดือนละกว่า 1.3 ล้านบาท
นายชาลี สิตบุศย์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาการเกษตรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร ส่งเสริมความปลอดภัยแก่ประชากรผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรในชีวิตประจำวัน เพิ่มปริมาณ และคุณภาพสินค้าของจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการขยายผลจากการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการผลิตผักบุ้งให้เพิ่มปริมาณผลผลิต และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยได้เข้าไปส่งเสริมเกษตรกรที่บริเวณตำบลเทพกระษัตรี ในพื้นที่หมู่ 1 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 ทำแปลงผักบุ้ง โดยการนำแปลงนาข้าวเดิมซึ่งเป็นนาร้างมาเป็นนาผักบุ้ง ผลิตผักบุ้งป้อนตลาดในภูเก็ต ซึ่งมีความต้องการสูงมาก จนผลผลิตที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในจังหวัดภูเก็ต
โดยขณะนี้มีเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 16 ราย พื้นที่ปลูกทั้งหมด 150 ไร่ โดยผักบุ้งที่ปลูกดังกล่าวผ่านกระบวนการผลิตพืชปลอดภัยผ่านมาตรฐาน GPA พืชแล้ว จึงนับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ และการขยายผลการผลิตพืชปลอดภัยแก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี
สำหรับผลผลิตผักบุ้งอยู่ที่เดือนละ 67,500 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 20 บาท ทำรายได้ให้เกษตรกรสูงถึงเดือนละ 1,300,000 บาท เฉลี่ยแล้วเกษตรกรจะมีรายได้ต่อรายเดือนละหลายหมื่นบาท ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัด จะร่วมกับทางอำเภอถลาง และ อบต.ในพื้นที่ขยายการส่งเสริมการปลูกผักบุ้งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นนาร้าง และมีน้ำด้วย เช่น บางจุดของตำบลศรีสุนทร เป็นต้น และในอนาคตอันใกล้นี้ทางสำนักงานเกษตรยังคิดที่จะสร้างแบรนด์ผักบุ้งของเทพกระษัตรีขึ้น เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคทราบว่า ผักบุ้งของตำบลเทพกระษัตรีเป็นผักบุ้งที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ด้านนายบรรลัง กุลด้วง เกษตรผู้ปลูกผักบุ้ง กล่าวว่า ตนได้มาทำแปลงผักบุ้งที่ตำบลเทพกระษัตรี ประมาณ 2 ปีแล้ว เมื่อปักต้นกล้าของผักบุ้งลงในแปลงนา ใช้เวลาประมาณ 20 วัน ก็สามารถตัดส่งให้แก่พ่อค้าที่มารับถึงแปลงผักบุ้งเลย โดยความต้องการผักบุ้งในภูเก็ตมีสูงมาก ผลผลิตที่เกษตรกรทั้ง 16 ราย รวมกลุ่มกันปลูกไปเพียงพอต่อความต้องการด้วย และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้อย่างงาม โดยแต่ละวันผักบุ้งที่ปลูกไว้จะสามารถตัดได้ 20 มัด ขายมัดละ 200 บาท ทำให้เกิดรายได้วันละประมาณ 4,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่พอเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี
