ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พบรถต้องสงสัยคนร้ายใช้ก่อเหตุกระชากตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว ผู้การเรียกประชุมชุดสืบสวนเร่งคลี่คลายคดีตามจับคนร้าย พร้อมลงพื้นที่เก็บลายนิ้วมือไว้ตรวจสอบ
วันนี้ (23 ม.ค.) พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบสัญชาติ ใช้รถกระบะดึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านม่าหนิก ฟาร์มาซี เลขที่ 19/29 ม.7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยคนร้ายไม่สามารถนำเงินในตู้ไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ช่วงเช้าของวันนี้ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง อย่างเร่งด่วน เพื่อหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย และได้สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คนร้ายใช้เส้นทางในการหลบหนี และในขณะนี้พอจะมีเบาะแสกลุ่มของคนร้ายบางแล้ว และจะเร่งไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 15.40 น.วานนี้ (22 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง อ.ถลาง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุโดยถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณทางเข้าสวนยางพารา บ้านควนตาแท่น หมู่ 2 รอยต่อระหว่างพื้นที่ ต.ศรีสุนทรกับ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.สุภรณ์ เมืองไข่ พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชานุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.สภ.ถลาง ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.กฤษณะ จันทร์นิตย์ สว.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สพฐ.จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต สภ.ถลาง
พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิสี บรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 4778 ภูเก็ต โดยอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุประมาณ 10-12 กม.เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงบริเวณสายไฟเครื่องยนต์ใต้พวงมาลัยใกล้กับจุดสตาร์ทเครื่องยนต์ เนื่องจากคนร้ายได้ใช้วิธีการต่อตรงเครื่องยนต์ หลังจากขโมยรถกระบะคันดังกล่าวมาจากบริเวณหน้าบ้านพักผู้เสียหายย่านบ้านสะปำ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุ โดยเจ้าของรถกระบะได้แจ้งความรถหายไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นได้นำมาก่อเหตุดังกล่าว
ซึ่งการตรวจเก็บลายนิ้วมือ และตัวอย่างดีเอ็นเอนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้ายที่บริเวณด้านหลังตู้เอทีเอ็ม ซึ่งถ้าตรงกันจะสามารถเป็นหลักฐานในการเสนอต่อศาลพิจารณาอนุมัติออกหมายจับคนร้ายในขั้นตอนต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบสัญชาติ ใช้รถกระบะดึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านม่าหนิก ฟาร์มาซี เลขที่ 19/29 ม.7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยคนร้ายไม่สามารถนำเงินในตู้ไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ช่วงเช้าของวันนี้ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง อย่างเร่งด่วน เพื่อหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย และได้สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คนร้ายใช้เส้นทางในการหลบหนี และในขณะนี้พอจะมีเบาะแสกลุ่มของคนร้ายบางแล้ว และจะเร่งไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 15.40 น.วานนี้ (22 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง อ.ถลาง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุโดยถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณทางเข้าสวนยางพารา บ้านควนตาแท่น หมู่ 2 รอยต่อระหว่างพื้นที่ ต.ศรีสุนทรกับ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.สุภรณ์ เมืองไข่ พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชานุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.สภ.ถลาง ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.กฤษณะ จันทร์นิตย์ สว.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สพฐ.จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต สภ.ถลาง
พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิสี บรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 4778 ภูเก็ต โดยอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุประมาณ 10-12 กม.เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงบริเวณสายไฟเครื่องยนต์ใต้พวงมาลัยใกล้กับจุดสตาร์ทเครื่องยนต์ เนื่องจากคนร้ายได้ใช้วิธีการต่อตรงเครื่องยนต์ หลังจากขโมยรถกระบะคันดังกล่าวมาจากบริเวณหน้าบ้านพักผู้เสียหายย่านบ้านสะปำ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุ โดยเจ้าของรถกระบะได้แจ้งความรถหายไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นได้นำมาก่อเหตุดังกล่าว
ซึ่งการตรวจเก็บลายนิ้วมือ และตัวอย่างดีเอ็นเอนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้ายที่บริเวณด้านหลังตู้เอทีเอ็ม ซึ่งถ้าตรงกันจะสามารถเป็นหลักฐานในการเสนอต่อศาลพิจารณาอนุมัติออกหมายจับคนร้ายในขั้นตอนต่อไป