นครศรีธรรมราช - ดวลปืนสนั่นตลาดสดนักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ตดังเมืองคอนโดนยิงดับ เพื่อนทหารบาดเจ็บ ตร.ระบุแค่มองหน้ากัน แล้วมีการยิงถล่มใสกันเพราะต่างฝ่ายต่างมีอาวุธปืน ขณะที่รอง ผบช.ภ.8 จะลงมาดูแลคดีด้วยตนเอง
วันนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 03.30 น. ผู้สื่ข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.บรรพต เอี่ยมศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย และบาดเจ็บที่ตลาดสดคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ฐิติสโรช รอง ผกก.ป.นำกำลังตำรวจชุดสอบสวน แพทย์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายธีศิษฏ์ ถาวระ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/32 ซอยหอไตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ฟุบจมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าหน้าอก 4 นัด กลางหลัง 7 นัด คาง 2 นัด แขนซ้าย 2 นัด และขาขวา 2 นัด อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นลายขาว-ดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ใกล้ศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ของผู้ตายตกอยู่ และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ภาณุวัฒน์ คงมีศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 ม.5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนของนายธีศิษฏ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าหน้าท้อง 2 นัด ไหปลาร้า 1 โหนกแก้ม 1 นัด และใต้คาง 2 นัด อยู่ในอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจได้รีบนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อย่างรีบเร่ง ซึ่งแพทย์พยาบาลได้ช่วยชีวิตจนอาการของ จ.ส.อ.ภานุวัฒน์ พ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายธีศิษฏ์ ผู้ตายนั้นเป็นนักเรียนนอกจบจากประเทศออสเตรเลีย หลังเรียนจบก็ได้มาทำธุรกิจรีสอร์ต และธุรกิจกะทิ และมะพร้าว โดยเป็นผู้บริหารแทนพ่อแม่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ในส่วน จ.ส.อ.ภานุวัฒน์ นั้นเป็นทหารอยู่ที่ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางกลับมาบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งช่วงเทศกาลวันเด็กที่ผ่านมา
ก่อนเกิดเหตุ นายธีศิษฏ์ พร้อมกับ จ.ส.อ.ภานุวัฒน์ ได้ชักชวนกันไปซื้อของที่ตลาดสดคูขวางซึ่งอยู่ในใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อนำไปใช้ในรีสอร์ต หลังจากสั่งของจากแม่ค้าทั้ง 2 ก็ได้ไปนั่งรอที่ร้านน้ำชาที่เกิดเหตุในตลาดดังกล่าว ส่วนฝ่ายคนร้ายเป็นวัยรุ่นประมาณ 8 คน นั่งที่ร้านเดียวกันก่อนแล้วได้มีการมองหน้าเขม่นกันขึ้น
หลังจากนั้น ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 8 คน เดินออกจากร้าน ปรากฏว่า นายธีศิษฏ์ ผู้ตายได้กวักมือเรียกแล้วถามว่า “มองหน้าทำไม” อีกฝ่ายตอบไปว่า “แล้วมึงมองทำไม” จนมีการสบถใส่กัน และยังมีการพูดอีกว่า “มึงมีปืนกูก็มีปืน” จากนั้นต่างฝ่ายต่างชักอาวุธปืนออกมายิงดวลกันอย่างอุตลุด เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวจากปืนของทั้ง 2 ฝ่าย ท่ามกลางผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ และวิ่งหลบหนีวิถีกระสุนกันอย่างอลหม่าน
สิ้นเสียงปืนนายธีศิษฏ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วน จ.ส.อ.ภานุวัฒน์บาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้น กลุ่มคนร้ายวัยรุ่นทั้ง 8 คน ก็ได้วิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ 3-4 คัน ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังออกไล่ล่าคนร้ายแต่ไร้ร่องรอย คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล ต่อมา ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.นครศรีธรรมราช ให้มาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐาน
พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ฐิติสโรช รอง ผกก.ป.สภ.เมือง กล่าวว่า สาเหตุไม่ได้สลับซับซ้อนเพียงแค่มองหน้าแล้วเขม่นกันขึ้นเท่านั้น แต่เชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุราที่ผับแห่งใดแห่งหนึ่งมาก่อนแล้วมาเจอกันมองหน้ากันก่อนจะก่อเหตุดังกล่าว และคาดว่าฝ่ายคนร้ายน่าจะถูกยิงบาดเจ็บด้วย และพอจะทราบแล้วว่ามือปืนกลุ่มนี้มีใครบ้าง
ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับขอภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดจากเทศบาลเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายวัยรุ่นกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้รายงานเหตุการณ์ให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งทาง พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภ.8 จะเดินทางมาดูแลและร่วมสอบสวนติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ด้วย เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ จะต้องเร่งรัดสืบสวนสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป