กาฬสินธุ์ - แฉเสี่ย “อ.” นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวางพัวพันคดีอุ้มฆ่านักเรียนนอก ขณะที่ “พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุปมฆาตกรรมเกิดจากหักผลประโยชน์ที่ดิน เป็นกลุ่มใกล้ชิดคนตาย มั่นใจหลังรวบรวมหลักฐานจะออกหมายจับได้
จากกรณีพบศพนายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือ “เสี่ยพล” อายุ 48 ปี นักธุรกิจหนุ่มนักเรียนนอกถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลุยสางคดี และกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เร่งคลี่คลายคดี จนพบเบาะแสจากกล้องวงจรปิดและเตรียมสรุปสาเหตุและตัดประเด็นสำคัญ และเชื่อว่าชนวนการสังหารเกิดจากหักผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา, พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ยรรยงค์ เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรมดังกล่าวจากชุดคลี่คลายคดีตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง, พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, และ พ.ต.ต.รพี สีพันนา พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีฯ
โดยการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ แต่ปฏิเสธที่จะให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง เนื่องจากมีประเด็นสำคัญที่หากเปิดเผยไปแล้วจะทำให้เสียรูปคดี ซึ่งการประชุม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีท่าทีเคร่งเครียด โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 30 นาที
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้มีความซับซ้อนและเกี่ยวพันกับบุคคลหลายกลุ่ม โดยประเด็นการสังหารชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ให้น้ำหนักไปที่ปัญหาซื้อขายที่ดิน ประเด็นการแบ่งปันเงินค่านายหน้า ส่วนเรื่องครอบครัวนั้นในวันเกิดเหตุซึ่งข่าวออกมาว่ามีคนเห็นว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มาอุ้มตัวไปนั้นไม่สามารถตอบได้เพราะตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำญาติทั้งหมด รวมถึงนายวิรัช รัตนตยาธิคุณ พ่อของผู้ตายที่ทราบว่าป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
“ยอมรับว่าคดีนี้มีความคืบหน้า แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้มากเพราะต้องให้เวลา ชุดสืบสวนทำงาน ซึ่งในบางส่วนยังอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อติดตามตัวบุคคลเข้าให้ปากคำ ส่วนกล้องวงจรปิด หรือแม้แต่เส้นทางต่างๆ คงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ทั้งนี้ กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใกล้ชิดคนตายที่ร่วมกันลงมือมีไม่ต่ำกว่า 5 คน เป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ คาดว่าการออกหมายจับโดยตำรวจกาฬสินธุ์จะสามารถออกได้ภายหลังมีความชัดเจนถึงผู้เกี่ยวข้องของคดีนี้” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว
ด้านแหล่งข่าววงในกล่าวว่า คดีนี้ปมฆาตกรรมต้องตัดประเด็นชู้สาวออก และทิ้งไว้เพียงเรื่องเงินซึ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินตลอด 10 วันที่ผ่านมา เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่านอกจากผู้ตายจะทำธุรกิจเสื้อผ้า โรงพิมพ์ ก็ยังมีอาชีพเป็นนายหน้ารับซื้อขายที่ดินเช่นกัน ซึ่งแต่ละธุรกิจจะไม่มีภรรยาเข้าไปมีส่วนร่วม
โดยเฉพาะอาชีพนายหน้าค้าที่ดิน ซึ่งผู้ตายจะทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนสนิท ซึ่งในวงการที่ดินจะเรียกว่า “เสี่ย อ.” นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวาง โดยคู่ธุรกิจคู่นี้จะเดินทางไปทั่วประเทศ มีการซื้อขายที่ดินมูลค่าหลายร้อยล้านบาทในแต่ละผืน แต่ด้วยนิสัยของผู้ตายเป็นหนุ่มนักรักทำให้การเดินทางซื้อขายที่ดินจะมีผู้หญิงมาติดพันจำนวนมาก
กรณีปมฆาตกรรม นางนกต่อ จึงถือเป็นกุญแจดอกสำคัญ ทราบว่าขณะนี้ได้ติดต่อเพื่อขอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว การประเมินเหตุการณ์ฆาตกรรมจึงอาจจะเกิดขึ้นสองกรณี คือ เกิดจากนางนกต่อ ที่รู้ว่าผู้ตายเพิ่งได้รับเงินค่านายหน้า จึงได้วางแผนลวงออกจากบ้านแล้วนำมาฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ หรือกรณีนกต่ออาจจะเป็นคนของ “เสี่ย อ.” ที่ถูกใช้มาเพื่อหักหลังผู้ตายเพื่อไม่ต้องจ่ายเงินค่านายหน้า จึงให้นกต่อลวงออกไปเที่ยวแล้วนำมาฆาตกรรม ซึ่งขณะนี้ผลทางคดีรอเพียงคำให้การของนางนกต่อ และ “เสี่ย อ.” ซึ่งตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ในขณะนี้