กาฬสินธุ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้ปมใบสั่งตาย “เสี่ยพล” ยิงทิ้งผาเสวย ประเด็นชู้สาว-หักผลประโยชน์นายหน้าค้าที่ดินร้อยล้าน สายสืบแกะรอยพบก่อนถูกอุ้มผู้ตายโทร.หาเพื่อนในภาคอีสาน ก่อนพบเป็นศพที่กาฬสินธุ์ ขณะที่ตำรวจเรียกลูกสาวสอบปากคำพรุ่งนี้
คืบหน้าคดีพบศพ นายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือ “เสี่ยพล” อายุ 48 ปี นักธุรกิจหนุ่มจากเมืองกรุง และนักเรียนนอก ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สภาพโดนยิงเข้าที่ท้ายทอย ที่เกิดเหตุพบรอยเลือด และหัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาดในที่เกิดเหตุ และยังพบร่องรอยแฝงจำนวนมาก ล่าสุด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบช.สนง.ตำรวจแห่งชาติ ลุยสางคดี โดยกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดทีมคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน
ล่าสุด วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงษ์ พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เรียกประชุมหัวหน้าสถานีตำรวจทั้ง 23 แห่ง เพื่อร่วมกันสืบสวนคดีฆาตกรรม “เสี่ยพล” ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งชุดสืบสวนเข้าสอบปากคำญาติที่กรุงเทพมหานคร เบื้องต้น ตั้งประเด็นฆาตกรรมไว้หลายประเด็น ทั้งหักธุรกิจเสื้อผ้า ปมชู้สาว และปมขายที่ดินมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งครอบครัวยังประกอบธุรกิจโรงพิมพ์เก่าแก่ย่านห้วยขวาง กทม. คาดว่าผู้ตายถูกอุ้มออกจากกรุงเทพฯ แล้วพามายิงทิ้งที่กาฬสินธุ์
“ประเด็นการสืบสวน ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ตัดเหลือเพียง 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องชู้สาว และ 2.ปัญหาค้าขายที่ดินในกรุงเทพฯ ที่มีราคาหลายร้อยล้านบาท ที่เกี่ยวพันต่อค่านายหน้าที่ผู้ตายจะต้องได้รับ และอีกประเด็นที่รองลงมา คือ ประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากพบการทำธุรกรรมทางการเงิน จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกลวงมาฆ่าก็เป็นได้” ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าว
เพื่อความชัดเจนด้านพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีได้เชิญญาติ และบุตรสาวของผู้ตายมาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.) ซึ่งจะสืบเสาะการเคลื่อนไหวของนายภาสพล ก่อนจะถูกพบศพที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ด้านการแกะรอยสายสืบทราบว่า ก่อนที่นายภาสพล ผู้ตาย หายออกจากบ้านเมื่อ 29 เมษายน นายภาสพล ได้ติดต่อเพื่อนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดกาฬสินธุ์ จากนั้นก็หายออกจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย ในตัวผู้ตายพบบัตรเครดิต ทางตำรวจได้ตรวจสอบบัญชีการเงินหาหลักฐานว่า ได้มีบันทึกการเบิกเงินในพื้นที่ใดหรือไม่ ซึ่งคาดว่าคดีนี้หลังจากรวบรวมหลักฐานก็จะทำให้รู้กลุ่มคนร้าย
ด้านแหล่งข่าวระบุว่า เหตุฆาตกรรมอำพรางครั้งนี้ตำรวจได้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องชู้สาว และเรื่องหักผลประโยชน์จากค่านายหน้ามากที่สุด โดยเรื่องชู้สาวทราบว่า ผู้ตายมีภรรยาหลายคน และคนสุดท้ายเป็นหญิงสาวต่างจังหวัดทางภาคเหนือ มีหน้าตาดี และฐานะดี แต่เนื่องจากทราบว่าผู้ตายมีภรรยาแล้ว จึงทำให้ผู้ใหญ่อีกฝ่ายไม่พอใจ และพยายามกีดกันมาโดยตลอด กับประเด็นค่านายหน้า ซึ่งมีการซื้อขายที่ดินผืนงามในกรุงเทพฯ มีราคากว่า 150 ล้านบาท อาจจะมีปัญหาเรื่องส่วนแบ่งจนเป็นเหตุให้ฆาตกรรม หรือจ่ายเงินไว้แล้วจึงลวงมาฆ่าเพื่ออำพรางคดี