กพฐ. ไฟเขียวแผนรับ นร. ม.1 ปี 58 ลดโควตา รับ นร. ในพื้นที่ลง 10% เหตุ นร.ในพื้นที่ลดลงและการเดินทางสะดวกขึ้น พร้อมเปิดทาง ร.ร. ถ้าที่นั่งนเขตพื้นที่บริการเหลือหลังรับแล้วเอาโควตาไปรวมกับรับ นร. นอกเขตพื้นที่ได้ ขณะที่การรับ นร. ม.4 คงเกณฑ์เดิมบังคับ ร.ร. รับเด็กทุกคนที่ได้คะแนนเฉลี่ยเกิน 2.00 ส่วนเกณฑ์การรับ นร. โควตาอื่น ๆ ให้คงเกณฑ์เดิมไว้ย้ำรับเพียงรอบเดียวเท่านั้น
วันนี้ (15 ส.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ที่มี นายสุรัฐ ศิลปอนันต์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กพฐ. มีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติในการรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2558 สาระสำคัญ คือ ลดสัดส่วนในการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง 10% จากเดิมรับนักเรียนพื้นที่บริการไม่ต่ำกว่า 50% ปรับเป็นรับนักเรียนในพื้นที่ในบริการไม่ต่ำกว่า 40% และให้อำนาจโรงเรียนพิจารณาเองว่าจะเลือกใช้การคัดเลือกนักเรียนในพื้นที่บริการด้วยวิธีใด โดยโรงเรียนอาจใช้วิธีรับโดยการสอบคัดเลือกทั้งหมด หรือรับโดยการจับสลากทั้งหมดหรืออาจใช้วิธีสอบคัดเลือกผสมผสานกับการจับสลาก อย่างไรก็ตาม ในปีการศึกษา 2557 ที่ผ่านมามีโรงเรียนเลือกใช้วิธีการจับสลากรับนักเรียนในพื้นที่บริการ 22 โรงเท่านั้นที่เหลือใช้วิธีการสอบคัดเลือก
“ถ้ามีนักเรียนในพื้นที่บริการมาสมัครไม่เต็มโควตา โรงเรียนสามารถนำที่นั่งที่เหลือไปรับนักเรียนนอกพื้นที่บริการได้ โดยการรับนักเรียนนอกพื้นที่บริการนั้นให้ใช้วิธีการสอบคัดเลือก รวมทั้งให้นำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ในสัดส่วน 20% มาร่วมพิจารณาด้วย สาเหตุที่ปรับลดสัดส่วนรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลงนั้น เพราะปัจจุบันจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ลดลง ขณะเดียวกัน การคมนาคมที่สะดวกขึ้นเปิดโอกาสให้นักเรียนเลือกเข้าโรงเรียนนอกพื้นที่บริการได้ เพราะฉะนั้น การปรับลดดังกล่าวก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง และยังส่งผลในแง่ดีทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนมากขึ้นเพื่อสอบเข้าตามโรงเรียนต่างๆ” นายกมล กล่าว
นายกมล กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนนั้น ในปีการศึกษา 2558 จะยึดตามเกณฑ์เดิม คือ ไม่เกินห้องละ 50 คน และให้รับเพียงรอบเดียวเท่านั้น จะไม่มีการขอขยายห้องเรียนเพื่อรับนักเรียนรอบที่สอง ส่วนการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษก็เป็นตามเกณฑ์เดิมเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ 7 ประเภท อาทิเช่น การรับนักเรียนยากไร้ด้อยโอกาส บุตรข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การรับนักเรียนตามข้อตกลงการจัดตั้งโรงเรียน เป็นต้น และให้นักเรียนจะต้องประกาศให้ชัดเจนว่าจะรับนักเรียนตามเงื่อนไขพิเศษจำนวนเท่าไร ส่วนการรับนักเรียนชั้นม.4 นั้นให้โรงเรียนรับนักเรียนที่จบจากระดับ ม.3 ทุกคนที่ได้จบการศึกษาและได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และหากมีที่นั่งเหลือให้รับนักเรียนภายนอกโดยวิธีการสอบคัดเลือก
ด้าน นายวินัย รอดจ่าย ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 2 กรุงเทพฯ (สพท.กรุงเทพฯ เขต 2 เดิม) ว่า ถึงแม้จะมีการลดสัดส่วนการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง 10% ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการรับนักเรียนใน สพม. 2 ซึ่งเคยมีปัญหาเด็กล้นเพราะปัจจุบันจำนวนนักเรียนใน สพม. 2 ทยอยปรับตัวลดลงจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยเกินถึง 20,000 คน แต่ปัจจุบันโรงเรียนที่เคยมีเด็กในพื้นที่บริการล้นอยู่จำนวนมากเช่น โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา (บดินทร์ 3) มีจำนวนนักเรียนในพื้นที่บริการไล่เลี่ยกับจำนวนที่โรงเรียนประกาศรับ ยกเว้นโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่ยังมีปัญหาเด็กล้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากรวมที่นั่งของโรงเรียนมัธยมใน สพม. 2 ทั้งหมด 52 โรงและที่นั่งในโรงเรียนเอกชนแล้ว สามารถครอบคลุมจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการทั้งหมดได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (15 ส.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ที่มี นายสุรัฐ ศิลปอนันต์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กพฐ. มีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติในการรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2558 สาระสำคัญ คือ ลดสัดส่วนในการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง 10% จากเดิมรับนักเรียนพื้นที่บริการไม่ต่ำกว่า 50% ปรับเป็นรับนักเรียนในพื้นที่ในบริการไม่ต่ำกว่า 40% และให้อำนาจโรงเรียนพิจารณาเองว่าจะเลือกใช้การคัดเลือกนักเรียนในพื้นที่บริการด้วยวิธีใด โดยโรงเรียนอาจใช้วิธีรับโดยการสอบคัดเลือกทั้งหมด หรือรับโดยการจับสลากทั้งหมดหรืออาจใช้วิธีสอบคัดเลือกผสมผสานกับการจับสลาก อย่างไรก็ตาม ในปีการศึกษา 2557 ที่ผ่านมามีโรงเรียนเลือกใช้วิธีการจับสลากรับนักเรียนในพื้นที่บริการ 22 โรงเท่านั้นที่เหลือใช้วิธีการสอบคัดเลือก
“ถ้ามีนักเรียนในพื้นที่บริการมาสมัครไม่เต็มโควตา โรงเรียนสามารถนำที่นั่งที่เหลือไปรับนักเรียนนอกพื้นที่บริการได้ โดยการรับนักเรียนนอกพื้นที่บริการนั้นให้ใช้วิธีการสอบคัดเลือก รวมทั้งให้นำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ในสัดส่วน 20% มาร่วมพิจารณาด้วย สาเหตุที่ปรับลดสัดส่วนรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลงนั้น เพราะปัจจุบันจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ลดลง ขณะเดียวกัน การคมนาคมที่สะดวกขึ้นเปิดโอกาสให้นักเรียนเลือกเข้าโรงเรียนนอกพื้นที่บริการได้ เพราะฉะนั้น การปรับลดดังกล่าวก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง และยังส่งผลในแง่ดีทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนมากขึ้นเพื่อสอบเข้าตามโรงเรียนต่างๆ” นายกมล กล่าว
นายกมล กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนนั้น ในปีการศึกษา 2558 จะยึดตามเกณฑ์เดิม คือ ไม่เกินห้องละ 50 คน และให้รับเพียงรอบเดียวเท่านั้น จะไม่มีการขอขยายห้องเรียนเพื่อรับนักเรียนรอบที่สอง ส่วนการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษก็เป็นตามเกณฑ์เดิมเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ 7 ประเภท อาทิเช่น การรับนักเรียนยากไร้ด้อยโอกาส บุตรข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การรับนักเรียนตามข้อตกลงการจัดตั้งโรงเรียน เป็นต้น และให้นักเรียนจะต้องประกาศให้ชัดเจนว่าจะรับนักเรียนตามเงื่อนไขพิเศษจำนวนเท่าไร ส่วนการรับนักเรียนชั้นม.4 นั้นให้โรงเรียนรับนักเรียนที่จบจากระดับ ม.3 ทุกคนที่ได้จบการศึกษาและได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และหากมีที่นั่งเหลือให้รับนักเรียนภายนอกโดยวิธีการสอบคัดเลือก
ด้าน นายวินัย รอดจ่าย ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 2 กรุงเทพฯ (สพท.กรุงเทพฯ เขต 2 เดิม) ว่า ถึงแม้จะมีการลดสัดส่วนการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง 10% ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการรับนักเรียนใน สพม. 2 ซึ่งเคยมีปัญหาเด็กล้นเพราะปัจจุบันจำนวนนักเรียนใน สพม. 2 ทยอยปรับตัวลดลงจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยเกินถึง 20,000 คน แต่ปัจจุบันโรงเรียนที่เคยมีเด็กในพื้นที่บริการล้นอยู่จำนวนมากเช่น โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา (บดินทร์ 3) มีจำนวนนักเรียนในพื้นที่บริการไล่เลี่ยกับจำนวนที่โรงเรียนประกาศรับ ยกเว้นโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่ยังมีปัญหาเด็กล้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากรวมที่นั่งของโรงเรียนมัธยมใน สพม. 2 ทั้งหมด 52 โรงและที่นั่งในโรงเรียนเอกชนแล้ว สามารถครอบคลุมจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการทั้งหมดได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
