ตรัง - แม้เกษตรกรส่วนใหญ่ของจังหวัดตรัง จะยึดการปลูกยางพาราเป็นอาชีพหลักเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ แต่สำหรับชาวตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา กลับพบว่า พื้นที่ดินแถวนั้นยังเหมาะที่จะปลูกพืชผลชนิดอื่นได้ดี โดยเฉพาะ “ฝรั่งแป้นสีทอง” กระทั่งเกิดเป็นการรวมกลุ่มขึ้น เน้นปลอดสารพิษ ผลผลิตผลโต และรสชาติหวานกรอบ ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ให้แต่ละครอบครัวอย่างมั่นคงแล้ว ยังสร้างชื่อให้แก่ชุมชนด้วย
ช่วงก่อนปี 2535 ที่จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลควนเมา เกษตรกรบางรายได้ไปปรึกษาที่สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง กระทั่งได้แนะนำให้หันมาปลูกฝรั่งพันธุ์นี้ เพราะปลูกง่าย ตลาดต้องการ อีกทั้งเป็นไม้ผลที่ทนทานต่อโรค และมีการลงทุนแต่ละไร่ไม่มาก จึงได้เกิดการรวมตัวของเกษตรกรในช่วงแรกๆ แค่ 4-5 ราย ในพื้นที่รวมประมาณกว่า 10 ไร่ ก่อนขยายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20 รายแล้ว
ส่วนเทคนิคขั้นตอนการปลูกไม้ผลดังกล่าว สิ่งสำคัญคือ จะต้องคัดเลือกสายพันธุ์แท้มาปลูกเท่านั้น ขณะที่การดูแลรักษาต้นฝรั่งให้ได้ดีนอกจากจะต้องดายหญ้าอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังต้องใส่ปุ๋ยทุกๆ 3 เดือนด้วย พร้อมทั้งตัดแต่งกิ่งกระโดง และลูกที่ไม่สมบูรณ์ออก แล้วให้ห่อผลที่สมบูรณ์ ซึ่งมีขนาดเท่ากับมะนาว โดยการใช้กระดาษห่อแล้วสวมทับด้วยถุงพลาสติก หลังจากนั้นประมาณ 60-75 วัน ก็สามารถเก็บผลไปขายได้
สำหรับการปลูก “ฝรั่งแป้นสีทอง” มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 1 หมื่นบาทต่อปี และมีรายได้เฉลี่ยไร่ละ 33,600 บาทต่อปี สามารถให้ผลผลิตได้ต้นละ 3 กิโลกรัมต่อครั้ง และเก็บผลผลิตได้ 2-3 ครั้งต่อเดือน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะให้ปริมาณผลผลิต 2,000 กิโลกรัมต่อเดือน ส่วนช่วงฤดูแล้งของทุกๆ ปี ประมาณ 3 เดือน หรือระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม แม้ผลผลิตอาจจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ไม่มาก ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา
ผลฝรั่งที่นำมาจำหน่ายจะมี 3 เกรด คือ เกรด A ขนาดน้ำหนัก 0.50 กิโลกรัมขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 25 บาท เกรด B ขนาดน้ำหนัก 0.30-4.99 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท และเกรด C ซึ่งผลมีตำหนิ ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ส่วนสถานที่ขายจะมีทั้งที่หน้าสวน ที่ร้านค้าริมถนนสายเทศารัษฎา ตำบลควนเมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง และในงานเทศกาลต่างๆ นอกจากนั้น ยังได้ต่อยอดผลิตเป็นน้ำฝรั่งสด ขวดละ 10 บาท
นายสุชิน สุธาชีวะ นายอำเภอรัษฎา เปิดเผยว่า ขณะนี้ในอำเภอรัษฎา มีการปลูก “ฝรั่งแป้นสีทอง” จำนวน 14,650 ต้น เนื่องจากเกษตรกรมองว่า การปลูกฝรั่ง 1 ไร่ ดีกว่าการปลูกยางพารา 3 ไร่ เพราะฝรั่งใช้ระยะเวลาการปลูกเพียง 8 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี และยังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก อีกทั้งนอกจากจะขายเป็นผลสดแล้ว ยังผลิตเป็นน้ำฝรั่งเพื่อสุขภาพขายได้ดีอีกด้วย
จุดเด่นของผลไม้อันเลื่องชื่อของเกษตรกรตำบลควนเมา ซึ่งได้ทำให้เป็นรู้จักกันโดยทั่วไปในเวลานี้ก็คือ นอกจากจะหวาน กรอบ อร่อย ผลโต และสดจากสวนวันต่อวันแล้ว ยังปลอดสารพิษด้วย เพราะชาวบ้านจะใช้วิธีการธรรมชาติในการกำจัดศัตรูพืช ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อไปยังที่ทำการกลุ่ม หมู่ที่ 4 ตำบลควนเมา โทร.08-1083-2309 หรือที่ว่าการอำเภอรัษฎา โทร.08-1867-1356