สุราษฎร์ธานี - ศาลเบิกตัว 2 จำเลย คดีฆาตกรรม น.ส.ฮันนาห์ วิกตอเรีย อายุ 24 ปี และนายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะที่จำเลยยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนพ่อแม่ยื่นขอประกันตัว
วันนี้ (26 ธ.ค.) ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้เบิกตัว นายซอ ลิน หรือโซเรน และนายเวพิว หรือวิน ชาวพม่า 2 จำเลยคดีฆาตกรรม น.ส.ฮันนาห์ วิกตอเรีย อายุ 24 ปี และนายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งเหตุเกิดที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่าน มา ออกจากเรือนจำอำเภอเกาะสมุย เพื่อมารับฟังการตรวจพยานหลักฐานหลักฐาน กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ และจำเลย หลังจากพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ได้สรุปสั่งฟ้องจำเลยจำนวน 6 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ในข้อหาที่ 1.หลบหนีเข้าเมือง 2.อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันฆ่านายเดวิทโดยเจตนา 4.ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.ฮานห์นาอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง 5.ร่วมกันฆ่า น.ส.ฮานห์น่าเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องเพิ่มอีก 1 ข้อหา ในข้อหาลักทรัพย์
จำเลยทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งวันนี้ (26 ธ.ค.) มีตัวแทนสถานทูตพม่า ตัวแทนคณะกรรมการสิทธิฯ ตัวแทนเครือข่ายสิทธิแรงงานข้ามชาติ และทนายจำเลยเข้าร่วมการรับฟังการตรวจพยานหลักฐาน และบอกว่ามีเอกสารพยานหลักฐานที่สำคัญที่แก้ต่างให้จำเลย ซึ่งการเบิกตัวในวันนี้พบว่าจำเลยทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยยอกล้อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาล
ขณะที่เมื่อเวลา 11.30 น. นายออง ยู ตัส ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ได้นำ นายโทน โทน ไทค์ นางเม เต้น บิดามารดา ของนายวิน ซอ โทน และ นายเต้ง เชว อาว นางพิว เชว นุ มารดา นายซอลิน และญาติจำนวนหนึ่งที่เดินทางจากประเทศพม่า มาร่วมรับฟังการไต่สวนตรวจสอบพยานหลักฐานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ก่อนจะกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยด้วย
โดยพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ได้ยื่นสืบพยานบุคคล จำนวนกว่า 60 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ผู้ตรวจร่างกายจำเลยทั้งคู่ พร้อมพยานบุคคลในพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพยานเอกสารที่เป็นภาพกล้องจากกล้องวงจรปิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดีก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุที่มีความยาวกว่า 10 นาที
ด้านทนายความของจำเลยทั้ง 2 ได้ยื่นขอเลื่อนคดีออกไป โดยอ้างว่า ขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอกเพิ่ม และขอให้พยานบุคคลที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เคยทำงานบนพื้นที่เกาะเต่า จำนวน 15 ปาก เบิกความต่อศาลศาลในเขตกรุงเทพฯ โดยอ้างว่า พยานทั้งหมดได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปบางส่วนแล้ว และไม่กล้าเดินทางมาเบิกความเกาะสมุยได้ โดยอ้างว่าไม่สะดวกในการเดินทาง แต่ศาลไม่อนุญาตตามทนายจำเลยร้องขอ โดยระบุว่า ศาลได้พิเคราะห์แล้วว่า ศาลได้สอบฝ่ายโจทก์ และจำเลยทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว สามารถนำพยานเข้าสืบตามบัญชีรายชื่อต่อศาลได้จึงไม่เห็นด้วยต่อทนายจำเลย
หลังจากใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในตรวจพยานหลักฐาน ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 โดยกำหนด 12 นัดไต่สวนพยานนัดละ 5 ปาก ตั้งแต่วันที่ 8, 9, 10, 22, 27, 24 กรกฎาคม วันที่ 18, 19, 20, 21, 27, 28 สิงหาคม และวันที่ 1, 2, 22, 23, 24, 25 กันยายน 2558
ด้านนายออง ยู ตัส ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสถานทูตได้เตรียมหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ขอประกันตัว 2 จำเลยทั้งคู่แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในการขอประกันตัว ในขณะที่ นายโทน โทน ไทค์ บิดาของจำเลยได้กล่าวว่า เขาขอพึ่งบารมีพระเจ้าอยู่หัว และเตรียมขอให้ทางสถานทูตพม่ายื่นประกันตัวลูกชาย และหวังว่าจะได้รับการอนุญาตจากศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ประกันตัว และมั่นใจศาลจะให้ประกันตัว ซึ่งวันนี้เจอลูก ลูกได้พูดให้กำลังใจพ่อแม่ไม่ต้องกลัว เขาทั้งคู่ไม่ได่กระทำความผิด
