ชุมพร - พบสัตว์หายากถูกคลื่นลมมรสุมสูง 2-4 เมตร ซัดเข้าฝั่งที่ชุมพร แค่ 4 วัน เจอแล้ว 2 ตัว เต่ากระ-โลมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือที่ชาวบ้านและชาวประมงเรียกว่า “ลมว่าว” มีกำลังแรง ทะเลคลื่นสูง 2-4 เมตร ได้พัดเข้าหาชายฝั่งในพื้นที่ภาคใต้ สำหรับพื้นที่ จ.ชุมพร ปรากฏว่า ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ ทยอยลอยมาเกยตื้นแล้ว 2 ตัว โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.57 มีเต่ากระ 1 ตัว ยังไม่ตายมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนัก 10 กก. ซึ่งถูกคลื่นซัดลอยมาเกยที่หาดแหลมสน หมู่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.57 ชาวบ้านพบซากโลมาหัวบาตรหลังเรียบจำนวน 1 ตัว อายุ 15 ปี ยาว 1.32 เมตร น้ำหนัก 22 กก. ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดชายหาดอ่าวท้องโข ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร
นายอติชาต อินทองคำ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร กล่าวว่า สำหรับเต่ากระที่ลอยมาเกยหาดแต่ยังไม่ตาย ตรวจสอบไม่มีบาดแผล มีอาการอ่อนเพลีย คาดว่าน่าจะถูกคลื่นทะเลที่มีกำลังแรงในช่วงนี้ซัดเข้ามาเกยหาด ซึ่งเต่ากระ ได้พยายามว่ายสู้คลื่นแต่ต้านคลื่นลมไม่ไหว จึงถูกซัดขึ้นมาเกยหาด อยู่ในสภาพที่อ่อนแรง โชคดีที่มีชาวบ้านไปพบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ไปจับเอามาเลี้ยงอนุบาลทำให้รอดตาย
นายอติชาต กล่าวอีกว่า ห่างกันเพียง 4 วัน พบโลมาหัวบาตรหลังเรียบตายที่ชายหาด จากการผ่าชันสูตรมีลิ้นจุกปาก บริเวณท้องพบอาหารที่ยังย่อยไม่หมดในกระเพาะอาหาร ในหัวใจไม่มีเลือด เบื้องต้นสันนิษฐานว่า การตายน่าจะเกิดจากภาวะช็อก เนื่องจากไม่มีเลือดในหัวใจ ซึ่งอาจเป็นไปได้จากถูกคลื่นซัด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอการวิเคราะห์สาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้ง
