นครศรีธรรมราช - พบก้อนน้ำมันดิบลอยติดริมหาดสิชล จ.นครศรีธรรมราช เป็นแนวยาวนับ 10 กม. คาดมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ชาวบ้านห่วงกระทบการหากินของโลมาสัตว์หายากที่เหลืออยู่ไม่กี่ตัว จี้บริษัทขุดเจาะน้ำมันมีสำนึกรักสิ่งแวดล้อมบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 พ.ย.) นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจาก นายอโณทัย อมรกิจ ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หาดบางดี-เสาเภา ต.เสาเภา อ.สิชล ว่า มีคราบน้ำมันจับตัวเป็นก้อนลอยมาติดริมชายหาดเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บริเวณปากน้ำปากดวด ม.2 ต.เสาเภา อ.สิชล จนถึงหาดปิติ ม.3 ต.สิชล อ.สิชล เป็นระยะทางยาวกว่า 10 กม.
บริเวณชายหาดมีคราบน้ำมันสีดำจับตัวกันเป็นก้อนขนาดเล็ก ไปจนถึงเป็นก้อนขนาดใหญ่มีน้ำหนักมากกว่า 1 กก. นอกจากนั้น มีขยะที่ถูกคลื่นลมซัดกวาดมาเกยหาดปะปนกับน้ำมันกลายเป็นสีดำซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำทะเล และสิ่งแวดล้อม เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นก้อนน้ำมันดิบลอยมาจากแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีก้อนน้ำมันลักษณะนี้เคยลอยมาติดที่ริมหาดสิชลเมื่อเดือน ก.พ.57 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เอาตัวอย่างไปพิสูจน์พบว่า เป็นน้ำมันดิบ และไม่มีหน่วยงานใดออกมาระบุถึงที่มาของก้อนน้ำมันนี้เลย
นายอโณทัย อมรกิจ ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หาดบางดี-เสาเภา กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนหนัก ช่วงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาก้อนน้ำมันลอยมาติดริมหาดครั้งหนึ่งแล้ว ส่งผลให้มีปลาโลมามาลอยตายที่หาดสิชลนับ 10 ตัว และปริมาณสัตว์น้ำในทะเลบริเวณนี้ก็ลดลงทันตาเห็น ทางชมรมช่วยกันเก็บคราบน้ำมันเพื่อทำความสะอาดริมหาดให้สวยงาม จนกระทั่งวันนี้ก็มาเกิดปัญหานี้ขึ้นมาอีก และครั้งนี้มีปริมาณมากกว่าครั้งที่แล้ว และยังมีขนาดก้อนน้ำมันใหญ่กว่าเดิมอีก
“ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา จะมีปลาโลมามาเล่นให้เห็นทุกวันไม่เคยเว้น และคาดว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่วันจะมีปลาโลมาต้องตายอีกหลายตัวอย่างแน่นอน เพราะปลาโลมาจะกินก้อนน้ำมันดิบเข้าไปเพราะนึกว่าเป็นอาหาร จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่ขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลอ่าวไทย ขอให้มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมบ้าง อย่าคิดแต่จะเอาอย่างเดียว และฝากถึงหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบลงมาดูปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชน และชาวประมงในพื้นที่ได้มีทรัพยากรที่ดีไว้ทำมาหากินในระยะยาวต่อไป” นายอโณทัย กล่าว