นครศรีธรรมราช - พบซากลูกโลมาหลังโหนกเกยหาดสิชลอีก ชาวบ้านเรียกร้องหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งหาต้นตอสาเหตุ ล่าสุด ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุ หรือแนวโน้มของการสูญเสียโลมาในทะเลย่านนครศรีธรรมราช
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงพบซากโลมาตาย และถูกคลื่นซัดเข้าเกยหาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนั้นพบลูกโลมาอายุไม่เกิน 1 ปี ลอยเกยหาดบ้านบางดี ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เป็นตัวที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์
โดยในเรื่องนี้ นายอโณทัย อมรกิจ ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหาดบางดี-เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งให้ นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษที่ 4 สิชล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบซากโลมาห่างจากที่ตั้งของชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหาดบางดี-เสาเภา ม.2 ต.เสาเภา อ.สิชล ราว 100 เมตร พบซากโลมาหลังโหนก เพศผู้ ความยาว 160 ซม. อายุ 1 ปี น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม พบว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง สภาพซากโลมาตรวจสอบไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด
นายอโณทัย เปิดเผยว่า โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีสังคม และครอบครัว มีคนเห็นว่ามีฝูงโลมาพยายามช่วยโลมาน้อยตัวนี้อยู่นานจนกระทั่งมาเกยหาดในสภาพที่ตายไปแล้ว ขณะที่ฝูงยังว่ายวนเวียนอยู่ไม่ห่างน่าจะเป็นครอบครัวฝูงเดียวกัน ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบยังมีคราบน้ำมันติดอยู่ริมหาด กระจายตัวอยู่ริมหาด และน้ำในทะเลยังเป็นสีเขียวทั่วหาดสิชล เกิดจากปรากฏการณ์ขี้วาฬ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันไม่มีพิษต่อสัตว์น้ำแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้โลมาจะทยอยตายลงไปจำนวนมากยังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุ หรือแนวโน้มของการสูญเสียโลมาในทะเลย่านนครศรีธรรมราช เช่นเดียวกับก้อนน้ำมันต่างๆ ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบ
