“โฮมเวิร์คภูเก็ต” แจงชั้นวางล้มทับลูกค้าเป็นอุบัติเหตุ ครอบครัวผู้บาดเจ็บเผยนาทีชีวิต(ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีชั้นวางสินค้าล้มทับลูกค้าที่โฮมเวิร์คภูเก็ตว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ปัดที่จะพูดถึงสาเหตุบอกเพียงว่าอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญ สั่งตรวจสอบการวางสินค้าทุกสาขาเพื่อสร้างความปลอดภัย พร้อมดูแลลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ และขอบคุณที่ลูกค้าไม่เอาเรื่อง ด้านครอบครัวที่ประสบเหตุเผยนาทีชีวิตที่ต้องวิ่งหนีชั้นวางของ แต่ลูกสาวคนโตโชคร้ายถูกทับได้รับบาดเจ็บยังนอนอยู่โรงพยาบาลพร้อมให้ทางโฮมเวิร์ครับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าร้านสตาร์บัคส์ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต น.ส.วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและผู้อำนวยการศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีชั้นวางสินค้าห้างโฮมเวิร์ค ภูเก็ต เกิดล้มลง เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 7 ธ.ค.2557 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ว่า

ผู้บริหารของทางห้างโฮมเวิร์คเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ต้องการที่จะให้เกิดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และต้องขอโทษชาวภูเก็ต และลูกค้าของโฮมเวิร์คเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รีบนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ทางแพทย์ยืนยันว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บปลอดภัย และให้อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันเกิดเหตุ โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในความดูแล และรับผิดชอบของโฮมเวิร์ค

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุการณ์ ทางฝ่ายเทคนิคของโฮมเวิร์คจากสำนักงานใหญ่ได้ลงมายังพื้นที่ภูเก็ตทันทีเพื่อทำการตรวจสอบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ทางโฮมเวิร์คกำลังเร่งตรวจสอบถึงสาเหตุที่ทำให้ชั้นวางสินค้าล้มลงมา และจะแจ้งรายละเอียดให้ทางสื่อมวลชน และชาวภูเก็ตทราบอีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร

น.ส.วิไลพร กล่าวอีกว่า โดยขณะนี้ทางสำนักงานใหญ่โฮมเวิร์คได้กำชับมายังผู้จัดการสาขาโฮมเวิร์คทุกสาขา ให้ตรวจสอบการจัดวางสินค้าอย่างรอบคอบ แม้ว่าที่ผ่านมา การจัดวางสินค้าของเราจะมีมาตรฐานอยู่แล้ว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม โฮมเวิร์คภูเก็ตจะเปิดให้บริการลูกค้าในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) ขณะนี้กำลังดำเนินการในเรื่องของการทำความสะอาดพื้นที่สีตกลงมาแตกกระจาย และให้กลิ่นของสีจางหายไปก่อนที่จะเปิดให้บริการลูกค้า ซึ่งการเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้ขอให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยในการที่จะเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่โฮมเวิร์ค เพราะทางเราจะเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ส่วนแผนกอื่นๆนั้นไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมเปิดให้บริการ ส่วนบริเวณชั้น 1 ที่เป็นพลาซ่านั้นได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น น.ส.วิไลพร กล่าวว่า ทางโฮมเวิร์คจะรับผิดชอบทั้งหมด และได้ส่งผู้จัดการไปดูแลผู้ป่วยทุกวัน และทราบว่า ลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บเป็นลูกค้าประจำของทางโฮมเวิร์ค ซึ่งต่อไปเมื่อลูกค้าหายเป็นปกติแล้ว ทางเราจะเชิญลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บมาชอปปิ้งเพื่อเป็นการปลอบขวัญ และเท่าที่ได้พูดคุยกับครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ ต้องขอขอบคุณที่ลูกค้าเข้าใจว่าเกิดการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และไม่เอาความ พร้อมทั้งจะกลับมาเป็นลูกค้าของโฮมเวิร์คอีกต่อไป ต้องขอบอกว่าทางเราให้ความสำคัญต่อลูกค้ามาก เพราะทางเรามีธุรกิจอยู่ในภูเก็ตหลายอย่าง และเมื่อเกิดอะไรขึ้นต่อลูกค้าเราพร้อมที่จะรับผิดชอบ

ผู้ประสบเหตุชั้นวางสินค้าในร้านโฮมเวิร์คภูเก็ตล้มใส่ เผยนาทีชีวิตหนีตายจากเหตุการณ์ พร้อมสวนกลับผู้บริหารห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต “ไม่เคยพูดว่าจะไม่เอาเรื่อง” ขณะนี้แจ้งความต่อทางตำรวจไว้แล้ว ส่วนลูกสาวที่ได้บาดเจ็บยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะยังมีอาการเจ็บที่ต้นคอ และศีรษะที่ยังบวม

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ร้านเฉลิมพลการไฟฟ้า เลขที่ 5/76 ถนนแม่หลวน ใกล้สี่แยกเขารัง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางภัชรี บุญทะเล อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้รับเจ็บจากกรณีชั้นวางสินค้า และถังสีภายในร้านโฮมเวิร์ค ภูเก็ต ล้มลงมาทับจนได้รับบาดเจ็บ กล่าวถึงนาทีชีวิตที่ต้องหนีตายจากเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนพร้อมด้วยครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย นายไพบูลย์ แซ่กิ้น สามี และลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.พิชญา แซ่กิ้น อายุ 11 ปี และ ด.ญ.ณัฐนรี แซ่กิ้น อายุ 9 ปี ได้เดินทางไปรับประทานอาหารที่ห้างเซ็นทรัล หลังจากนั้นก็ชวนกันมาซื้อของที่ร้านโฮมเวิร์ค แต่ขณะที่กำลังเดินดูของที่บริเวณโซนขายสี โดยสามีเดินอยู่ด้านหน้าพร้อมกับลูกสาวคนเล็ก ส่วนตนเดินตามหลังมาพร้อมกับลูกสาวคนโต เมื่อเดินดูของได้สักครู่ก็ได้ยินเสียดังขึ้นที่บริเวณชั้นวางสินค้าด้านขวามือซึ่งเป็นชั้นวางถังสี สามีก็หันกลับไปมองพร้อมกับตะโกนให้ตนกับลูกวิ่งหนี ตนพร้อมลูกสาวคนโตก็วิ่งหนีออกมาทันที โดยตนนั้นสามารถวิ่งหนีออกมาได้ในระยะกระชั้นชิดแต่ก็ยังถูกชั้นวางสินค้ากระแทกเข้าใส่จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้ายจนเป็นรอยถลอก

ในขณะลูกสาวคนโตนั้นวิ่งหนีออกมาไม่พ้น ถูกชั้นวางของ และถังสีล้มลงแบบโดมิโนมาทับเกือบทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงเอว โผล่ออกมาเพียงแค่ขาเท่านั้น เมื่อเห็นดังนั้นตนและสามีรู้สึกตกใจมากพยายามที่จะเข้าไปยกสิ่งของ และชั้นวางสินค้าที่ทับอยู่บนตัวลูกออก เพราะลูกร้องให้ช่วย และบอกว่าหายใจไม่ออก แต่ด้วยแรงของคนแค่ 2 คนไม่สามารถจะยกชั้นวางสินค้า และถังสีออกมาได้ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น หลังจากนั้น ก็มีพนักงานของทางห้างเข้ามาช่วยกันยกชั้นวางออก ตนจึงเข้าไปนำร่างของลูกออกมาจากจุดที่เกิดเหตุในสภาพหัวแตก หน้าผากปูด มีบาดแผลที่แขน และเลอะสีไปทั้งตัว หลังจากช่วยเหลือออกมาแล้วทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เพื่อรักษา และดูอาการ ส่วนตนและสามี รวมทั้งลูกสาวคนเล็กเดินทางไปโรงพยาบาลเอง

นางภัชรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกสาวนั้นหลังจากตรวจที่โรงพยาบาล ตอนแรกแพทย์ก็บอกกว่าไม่มีอะไรมาก ให้กลับไปรอดูอาการที่บ้าน แต่ตนยืนยันที่จะให้ลูกนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลเพราะไม่แน่ใจว่าลูกจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า เนื่องจากสภาพหน้าผากที่บวม และลูกบอกว่าตอนถูกชั้นวางสินค้าล้มทับนั้นล้มลงไปหัวกระแทกพื้นด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ลูกสาวก็ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยล่าสุด ลูกสาวยังมีอาการปวดที่ต้นคอ ส่วนอาการบวมที่หน้าผากนั้นบางครั้งก็บวม บางครั้งก็ยุบ จุดนี้แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไรจะต้องรอตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่ทางห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต ออกมาบอกต่อทางสื่อมวลชนว่า ทางผู้เสียหายจะไม่เอาเรื่องเพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุนั้น ตนขอยืนยันว่ายังไม่เคยพูดว่าจะไม่เอาเรื่องต่อทางโฮมเวิร์ค และขณะนี้ก็ได้มีการแจ้งความไว้แล้ว ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือในเบื้องต้นกรณีการรักษาพยาบาลนั้นทางห้างก็รับผิดชอบแล้ว และที่ผ่านมา มีเพียงผู้จัดการร้าน และหัวหน้าแผนกเท่านั้นที่เดินทางมาเยี่ยม และสอบถามอาการ แต่ยังไม่เคยพูดกันถึงเรื่องอื่น ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมีการพูดคุยกัน และจะต้องดูว่าทางโฮมเวิร์คจะรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีระดับผู้บริหารนอกเหนือจากนี้เข้ามาคุย จึงอยากให้ทางผู้บริหารออกมารับผิดชอบมากกว่านี้ ซึ่งนอกจากลูกสาวคนโตจะได้รับบาดเจ็บ และตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ในส่วนของลูกสาวคนเล็กที่เห็นเหตุการณ์ตลอดก็มีความฝังใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังอยู่ในอาการหวาดผวา

นางภัชรี ยังได้กล่าวต่อไปว่า ที่ออกมาพูดในครั้งนี้เพราะอยากให้คนได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตนและครอบครัวที่ต้องหนีตายออกมาจากจุดที่เกิดเหตุ คิดดูถ้าหนีออกมาไม่พ้นครอบครัวตนทั้ง 4 ชีวิตจะเป็นอย่างไร คนเป็นแม่เห็นชั้นวางสินค้า และถังสีล้มลงมาทับร่างของลูก พร้อมกับเสียงร้องที่ให้แม่ช่วยเหลือ รู้สึกอย่างไร ส่วนกรณีที่ทางห้างฯ แจ้งต่อทางสื่อมวลชนว่า หลังจากครอบครัวตนหายดีแล้วจะให้ไปชอปปิ้งที่ห้างนั้นตนคงไม่รับ และขณะนี้ยังไม่มีความมั่นใจที่จะไปซื้อของที่ห้างดังกล่าวอีกเพราะไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังติดตา และฝังอยู่ในใจของตน ยากที่จะลืมได้