ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.การท่องเที่ยวฯ เอาจริงแก้ปัญหาการท่องเที่ยวอันดามัน ลงพบผู้ประกอบการ 3 จังหวัด ร่วมหารือแนวทางส่งเสริม และพัฒนาการท่องเที่ยวภาพรวม ขณะที่อดีต ส.ว.ภูเก็ต ฝากรัฐมนตรีจัดสรรงบประมาณพัฒนาท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ภูเก็ตทำรายได้ให้แก่ประเทศไทยมหาศาล แต่งบพัฒนาได้รับแค่เล็กน้อย
วานนี้ (31 ต.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมออร์คิด รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมร่วมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เพื่อติดตามผลการดำเนินการประชุมหารือผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในคราวการประชุมเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมป่าตอง รีสอร์ท โดยมี ร.ต.อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการสรุปประเด็นปัญหาที่มีการนำเสนอจากผู้ประกอบการในจังหวัดต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และแหล่งท่องเที่ยว เช่น การบำบัดน้ำเสียที่ยังไม่สมบูรณ์ ปัญหาขยะ ปัญหาโครงกรพื้นฐานไม่เพียงพอรองรับการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม เป็นต้น ด้านมัคคุเทศก์ เช่น ปัญหามัคคุเทศก์เถื่อน ปัญหาบัตรมัคคุเทศก์ ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์การ์ด โรงแรมขนาดเล็กๆ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวอื่นๆ ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีการขอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัย การติดตั้งกล้องวงจรปิด และการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ปัญหาการขาดอัตรากำลังของหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ ปัญหาของกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว และปัญหาอื่นๆ เช่น ขาดงบประมาณการจัดทำงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานฯ ไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับชุมชน ขาดการกำหนดทิศทางในการพัฒนาระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ไม่มีสำนักงาน ททท.จังหวัดพังงา เป็นต้น
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ทางผู้ประกอบการได้นำเสนอปัญหา และความต้องการอย่างหลากหลาย เช่น นายสถิรพงศ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ฝากดูแลเรื่องของการนำสายไฟฟ้า โทรศัพท์ และสายเคเบิลลงใต้ดิน เพื่อให้เกิดความสวยงามในแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการการทัวร์จีน ฝากให้ดูแลเรื่องของนอมินีชาวต่างชาติ ที่เข้ามาจัดตั้งบริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะโดยอาศัยคนไทย และการใช้มัคคุเทศก์ที่เป็นคนจีน ซึ่งกลุ่มนี้เมื่อเข้ามาอยู่นานๆ ก็จะมีการติดต่อกลุ่มทุนจากประเทศจีนให้เข้ามาลงทุนทั้งในเรื่องของรถบริการรับส่งนักท่องเที่ยว เรือนำเที่ยว ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ร้านอาหาร เป็นต้น สร้างความเดือนร้อนให้แก่ผู้ประกอบการคนไทยเป็นอย่างมาก ไม่ต่างกับผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเกาะพีพี-อ่าวพังงา ซึ่งประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
ขณะที่ นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อยากฝากเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ ในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องต่อรายได้จากการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตทำให้แก่ประเทศปีละจำนวนมาก แต่กลับได้รับงบประมาณด้านการพัฒนาน้อยมาก และอยากให้เปลี่ยนทัศนคติที่ว่าภูเก็ตรวยแล้วให้ช่วยตัวเอง ซึ่งเห็นด้วยต่อแบ่งการพัฒนาเป็นกลุ่ม คลัสเตอร์ แต่อยากให้เพิ่มความเข้มแข็งของแต่ละเมือง โดยแบ่งเป็นเมืองเอก เมืองโทด้านการท่องเที่ยว เพื่อจะได้สามารถพัฒนาได้ตรงจุด รวมทั้งการเพิ่มงบประมาณให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการทำประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น
ด้าน นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องมีการมาประชุมรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการ เพื่อให้เห็นปัญหา และความต้องการในภาพรวม และต้องการให้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ที่เคยทำแบบแยกส่วนมาเป็นการมองในภาพรวม ซึ่งหลังจากรับทราบปัญหาแล้วก็จะมีทีมงานที่ลงไปพุดคุยในพื้นที่เพื่อให้ได้ภาพว่า แต่ละพื้นที่ต้องการอะไรอย่างไรที่ชัดเจน เพราะแต่ละพื้นที่จะมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน เราจะดึงศักยภาพมาใช้ได้อย่างไร และจะต้องเกิดจากความต้องการจากท้องถิ่นอย่างแม้จริง โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การดูแลรักษาโปรดักต์ที่มีอยู่ให้เกิดความยั่งยืน นักท่องเที่ยวมาแล้วอยากมาอีก รวมทั้งสามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต เพราะจากที่รับฟังว่าทุกพื้นที่ก็ล้วนต้องการนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ซึ่งการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวนอกจากจะมีการพัฒนาในรูปแบบของกลุ่มจังหวัดแล้ว สิ่งที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้การพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวที่ยังยืน ก็จะต้องมีการแบ่งเมืองท่องเที่ยวออกเป็นเมืองเอก เมืองโท ด้วย ซึ่งจะทำให้การพัฒนา หรือการวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวทำได้ตรงจุด และตรงเป้าหมายมากขึ้น
ส่วนปัญหาต่างๆ นั้นอยากให้ทุกหน่วยทุกภาคส่วนนำเสนอข้อเท็จจริงเข้ามา รวมทั้งแนวทางในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยาน เรื่องของการสร้างสะพานเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ปัญหาการตัดราคาห้องพัก และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน จึงอยากให้มีการนำเสนอเข้ามาในรูปแบบของข้อเท็จจริง และในการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นจะต้องเอาสิ่งใหม่ๆ มาขายด้วย โดยการสร้าง หรือผลักดันให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเที่ยว อย่างเช่นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ชอบเดินทางกลับเข้าซ้ำ ซึ่งการรองรับนักท่องเที่ยวเข้ามาซ้ำเราก็ต้องหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือมุมมองใหม่ๆ มารองรับ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้จะตั้งทีมลงมาทำงานในพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายที่สำคัญ และตรงต่อความต้องการของประชาชน และคนในพื้นที่จริงๆ