ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าติดตั้งกล้อง CCTV ตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียด ความเหมาะสม และดำเนินการติดตั้งระบบกล้องวงโทรทัศน์วงจรปิด สั่งสำรวจกล้องใหม่ทั้งหมดพร้อมให้ท้องถิ่นตั้งงบซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ขณะที่กรมการท่องเที่ยว ใช้งบอีก 45 ล้าน ติดเพิ่มในป่าตอง และเมืองภูเก็ตเสร็จพ.ย.นี้ ด้านตำรวจขอให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อบจ.จัดสรรงบ 29 ล้าน ติดเพิ่มอีก 200 ตัวทั่วทั้งเกาะ อบจ.รับลูกขอศึกษารายละเอียดก่อนจัดสรรงบประมาณดำเนินการ
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษารายละเอียด ความเหมาะสม และดำเนินการติดตั้งระบบกล้องวงโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนจังหวัดภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม และภายหลังประชุมแล้วเสร็จคณะกรรมการฯ ได้เดินทางไปดูระบบควบคุมกล้อง CCTV ของ อบจ.ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบนโยบายในเรื่องของการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้ทั่วจังหวัดภูเก็ต เพื่อรักษาความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน โดยขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งกำหนดไว้ในแผนงบประมาณประจำปีเพื่อติดตั้งกล้อง CCTV ได้ด้วย ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียด ความเหมาะสม และดำเนินการติดตั้งระบบกล้องวงโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนจังหวัดภูเก็ตขึ้นมา
โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ณ ปัจจุบันภูเก็ตมีกล้อง CCTV ที่ติดตั้งแล้วในภูเก็ต จำนวน 1,279 ตัว ใช้งานไม่ได้ 106 ตัว เป็นกล้องที่ดำเนินการโดย อบจ. ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีเพียง อบต.สาคูเท่านั้นที่ขณะนี้ยังไม่ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่เลยแม้แต่ตัวเดียว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการติดตั้งกล้องวงปิดในภูเก็ต คือ เมื่อติดตั้งแล้วมีจำนวนไม่น้อยกว่า 40-50% ของจำนวนกล้องที่ไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้จัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุง และดูแลรักษา และส่วนหนึ่งที่ทำให้กล้องที่ติดตั้งไปแล้วชำรุดคือ ระบบไฟฟ้าที่ไม่เสถียรในภูเก็ต และจะตั้งงบประมาณติดตั้งเพิ่มเติม
นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆ มีโครงการที่จะติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในภูเก็ตเพื่อให้เพียงพอและครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยขณะนี้ในส่วนของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดสรรงบประมาณปี 2557 นี้ จำนวน 45 ล้านบาท ติดตั้งกล้อง CCTV ในภูเก็ต ที่ป่าตองและเมืองภูเก็ต โดยที่ป่าตองนั้นติดตั้ง 89 ตัว และเมืองภูเก็ตอีก 19 ตัว โดยจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีระบบควบคุมอยู่ที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต
พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจนั้น ได้ใช้กล้อง CCTV ในการแกะรอยคนร้ายเกือบจะทุกคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก และจากการศึกษาของตำรวจพบว่า ภูเก็ตจะต้องติดตั้งกล้องเพิ่มเติมอีกในบางจุดที่เป็นจุดเสี่ยง โดยเฉพาะจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในเรื่องของความปลอดภัย เพราะหากเกิดเหตุต่อนักท่องเที่ยวเหมือนกรณีที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ก็จะสร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตเป็นอย่างมาก โดยทางตำรวจภูธรภูเก็ตได้จัดโครงการที่จะติดตั้ง CCTV เพิ่มอีก 200 ตัว ด้วยงบประมาณ 29 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งเกาะภูเก็ต ได้เคยนำเสนอให้แก่ทางจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขอสนับสนุนงบประมาณมาดำเนินการแต่ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว จึงอยากจะให้ทางหน่วยงานต่างๆ พิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดสรรงบประมาณมาติดตั้งเพิ่มเติม
ด้าน นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ทาง อบจ.ภูเก็ต พร้อมที่จะจัดสรรงบประมาณสำหรับการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มตามงบประมาณที่ทางตำรวจได้ศึกษาไว้ประมาณ 29 ล้านบาทในเบื้องต้น แต่ทั้งนี้ จะต้องศึกษาในรายละเอียดก่อนว่ากล้องดังกล่าวที่ศึกษาไว้นั้นไปซ้ำซ้อน หรือว่าเข้ากับระบบเดิมที่มีอยู่แล้วหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต ให้ความสำคัญอยู่แล้ว และขณะนี้ อบจ.เองก็ได้ติดตั้งกล้องไปแล้วจำนวนหนึ่ง และมีระบบควบคุมอยู่ที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และเชื่อมระบบกับทางตำรวจแล้วด้วย เพื่อให้การใช้งานของกล้องเกิดประโยชน์สูงสุด และยืนยันว่า กล้องของ อบจ.ที่ได้ติดตั้งไปแล้วนั้นสามารถใช้งานได้ทุกตัว
ขณะที่ นายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เพื่อให้กล้องที่ได้ติดตั้งไปแล้วกว่า 1 พันตัวในภูเก็ตสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ฝ่าย จากจังหวัด อบจ.และตำรวจ ออกสำรวจกล้องทั้งหมดที่ติดตั้งไปแล้วว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ รวมทั้งตำแหน่งที่ตั้ง ประเภทของกล้อง และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งตั้งงบประมาณสำหรับดูแลและบำรุงรักษากล้องเพื่อให้ใช้งานได้ทุกเวลา เพราะกล้อง CCTV ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการสกัดกั้นและติดตามคนร้าย รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว