โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
คนไทยบางส่วนรับรู้ปัญหาและเหตุการณ์บ้านเมืองหลายเรื่องที่รุมเร้าและท้าทายความสามารถของรัฐบาลขณะนี้น่าจะรู้สึกว่าความอยู่รอดในขั้นสุดท้ายไม่ใช่เพียงสถานภาพของท่านผู้นำ แต่เป็นความมั่นคงของประเทศนั่นเลย
เอาเพียงแค่เรื่องความเสียหายรุนแรงจาก “ยุคชั่ว” ตามคำพูดของหม่อมอุ๋ย และ “สุดยอดของความชั่วร้าย” จากปากของคนดังใน ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องนโยบายจำนำข้าว สะสมหนี้สินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ก็หัวใจแทบวายแล้ว
การทุจริตกว่า 7 แสนล้านบาท เงินถูกโอนไปต่างประเทศ ทำให้หม่อมอุ๋ยต้องหาทางล้างภาระการเงินก้อนหนี้ด้วยแผนการกู้เงิน 8 แสนล้านบาทด้วยการออกพันธบัตร ใช้คืนภายใน 30 ปี เพิ่มหนี้ต่อหัวให้ทุกคนต้องแบกรับเต็มที่
ขณะที่ยังปิดบัญชีข้าวไม่ลง มีปัญหาหน่วยงานวิสาหกิจของรัฐไม่ให้รายละเอียด ยังมีข่าวว่าข้าว 18 ล้านตันในโกดังมีเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ยังดีอยู่ ส่วนที่เหลือต้องขายเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเอทานอล หรือปรับปรุงคุณภาพ
ส่วนนี้ความเสียหายอยู่ระหว่าง 6-8 แสนล้านบาท! รวมแล้วจาก 3 ฤดูการทำนาในโครงการรับจำนำข้าว ความเสียหายโดยรวมอาจมากถึง 1.4 ล้านล้านบาท เกือบเท่ากับเงินใน 1 ปีของงบประมาณ มากที่สุดในประวัติศาสตร์
เห็นได้ชัดว่านักการเมืองชั่วร้ายและเครือข่ายสามารถทำให้บ้านเมืองแทบล้มละลายเพราะพฤติกรรมสามานย์เพียงแค่ 2-3 ปีเท่านั้น ที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นคือ ทุกวันนี้ยังไม่มีมาตรการอะไรที่จะเอาพวกคนชั่วเข้าคุกได้
ผู้นำรัฐบาลบอกว่าต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ ป.ป.ช. รับเป็นเจ้าภาพ เมื่อเป็นแบบนี้ ชาวบ้านทั่วไปคงหวังได้ยากว่าเรื่องนี้จะมีข้อสรุปได้รวดเร็ว ทั้งกระบวนการฟ้องร้อง การพิจารณาคดียืดเยื้อหลายปี เสี่ยงต่อความล้มเหลว
นี่เป็นวิกฤตรุนแรงด้านกระบวนการและความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ขณะที่ผู้นำมีอำนาจเต็มที่ภายไต้กฎอัยการศึก ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่จะจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว แต่กลับไม่ใช้โดยอ้างความเป็นธรรม
ไม่ใช่เพียงการติดตามเล่นงานขบวนการโกงชาติระดับสุดยอดเท่านั้น รัฐบาลยังไม่สามารถจัดการแก้ปัญหา คดีความ การละเมิดกฎหมายต่างๆ ส่อแววว่าเรื่องทั้งหมดอาจไม่ไปถึงเป้าหมาย ทำให้กระบวนการยุติธรรมล้มเหลว
ถ้าความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า 1 ล้านล้านบาทไม่มีใครถูกดำเนินคดีหรือติดคุก บ้านเมืองไม่เหลือความน่าเชื่อถือในสายตาประชาคมโลก คนไทยจะถูกมองว่าไม่เอาไหน ปล่อยให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์เพาะเชื้อคนชั่ว
ประเด็นถอดถอนนักการเมืองมีมลทินยังคาราคาซังใน สนช. ไม่รู้ว่าจะมีความกล้าหาญทางการเมืองหรือถูกขบวนการหมกเม็ด พวกเจาะรูหมาลอดช่วยเหลือขบวนการโจรปล้นชาติให้อยู่แบบมีความสุขใช้เงินสบายๆ ลอยนวล
นั่นรวมถึงคดีถอดถอนอดีตประธานสภาฯ และประธานวุฒิสภา การพิจารณาถอดถอนนางปู รวมพวกที่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งกำลังคืบด้านด้วยความเร็วของทากที่ง่อยเปลี้ยจนไร้ความหวัง
เมื่อคนไทยซึ่งยังมีสติและชาวโลกเห็นภาพการระรี้ระริกของบักเหลี่ยมและนางปู รวมบริวารท่องเที่ยวญี่ปุ่นและจีนโดยสบายใจ ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับความศักดิ์สิทธ์ของกฎหมายไทย การปฏิบัติหน้าหน้าที่ของผู้รักษากฎหมาย ว่ายังมุ่งรักษาความน่าเชื่อถือของประเทศไทยหรือไม่
บักเหลี่ยมหนีโทษจำคุก 2 ปี หนีหมายจับ 6 คดี เกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบรอการพิจารณาโดยศาล แต่ความพิสดารคือทุกวันนี้ไม่มีใครใส่ใจเอาตัวบักเหลี่ยมมาขึ้นศาลหรือเข้าคุก กลับถูกยกย่องว่ามีคุณต่อประเทศ
ผู้มีหน้าที่ ตั้งแต่ตัวท่านหัวหน้ารัฐบาลจนถึงตำรวจชั้นผู้น้อย ไม่มีความรู้สึก หรือเดือดร้อนว่าเกิดความเสื่อมเสียความน่าเชื่อถือและเกียรติภูมิของประเทศไทยเมื่อไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมทั้งไม่รู้สึกอายอีกด้วย
มีคำถามซ้ำซากว่าทำไมรัฐบาลไม่จัดการถอดยศ ยกเลิกหนังสือเดินทาง บักเหลี่ยม เอาตัวมาเข้าคุกในฐานะที่เป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ให้คนเสื้อแดงในช่วงเผาบ้านเผาเมือง นอกเหนือจากข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่รอการดำเนินคดี
นี่เป็นปัญหาความน่าเชื่อถือ นอกเหนือจากการเพิกเฉย ไม่ติดตามงานต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูกอบกู้ศรัทธาของประชาชน แม้แต่ตัวผู้นำเองยังตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่มีใครรักษากฎหมาย ทั้งๆ ที่เกิดความเสียหายรุนแรง
หรือจะให้เป็นความจริงโดยดุษฎีว่าคุกเมืองไทยมีไว้สำหรับขังคนจนกับคนไร้เส้นสาย คนรวย มีอำนาจเครือข่ายอยู่เหนือข้อบังคับของกฎหมาย ถ้าเป็นเช่นนั้น สังคมไทยจะเป็นสังคมไร้ยางอาย ยอมให้คนชั่วทำอะไรก็ได้ตามใจ
ยังไม่พิจารณาผลงานที่ไม่สะเด็ดน้ำ เช่นราคาลอตเตอรี่ขายเกินราคา ความล้มเหลวของแผนปฏิรูปพลังงาน เร่งเรียกประมูลอย่างน่าสงสัย ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติตามที่มีเสียงเรียกร้องและท้วงติงมาโดยตลอด
ถ้าคนไทยยอมรับสภาพสังคมที่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ป่วยการที่รัฐบาลจะขอความร่วมมือเห็นใจ ขอเวลาทำงาน เมื่อผลที่คาดได้ไม่น่าจะเอื้อประโยชน์ของประชาชน การปรองดองตามคำขอร้องเป็นการชะลอวิกฤต
แต่ละวันผ่านไป การคงอยู่ของกฎอัยการศึกจะถูกมองว่าเป็นฐานอำนาจการเมืองโดยประชาชนมองไม่เห็นอนาคตหลังภาพโลกสวย และทันที่ที่ถูกยกเลิก ความวุ่นวายจะเกิดขึ้น และคงไม่มีใครกล้ารับผิดชอบอีกตามเคย
ยังมีอะไรดี? เศรษฐกิจยังตกต่ำ หนี้สินเพิ่ม คงบอกได้แต่เพียงว่า เอวัง!ความศักดิ์สิทธ์ของกระบวนการรักษากฎหมายไทย โจราธิปไตยจงเจริญ!