ชุมพร - ด่านศุลกากร ร่วมตำรวจ ปทส.สนธิกำลังด่านตรวจสัตว์ชุมพร จับแก๊งค้าตัวนิ่ม งาช้าง ขณะกำลังขับรถพร้อมของกลางเข้าพื้นที่ชุมพร ยึดของกลางมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ส่งต่างประเทศ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) นายบุญชัย กุลประภาพันธ์ นักวิชาการชำนาญการ ด่านศุลกากรชุมพร ร.ต.ท.เฉลียว สวัสดิพันธ์ รอง สว.กก.5 ปทส. นายนิสิทธิ์ ยมศิริ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าชุมพร ด.ต.สุทิน สวนทรงธรรม เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เจ้าหน้าที่สรรพสามิตชุมพร พร้อมกำลัง ได้ควบคุมตัว นายสานิตย์ ปาลาวัน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/1 หมู่ 5 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
พร้อมของกลาง ตัวนิ่มสายพันธุ์มลายู จำนวน 75 ตัว น้ำหนักประมาณ 375 กิโลกรัม มูลค่า 3,750,000 บาท หนังตัวนิ่มตากแห้ง น้ำหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่า 80,000 บาท งาช้าง 1 กิ่ง ยาว 3 ฟุต หนัก 2 กิโลกรัม มูลค่า 500,000 บาท พร้อมรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา ทะเบียน ขต 2510 สงขลา ไปสอบสวนขยายผลที่สำนักงานศุลกากร จ.ชุมพร
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดได้สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าหน่วยปราบปรามด่านศุลกากร จ.ชุมพร ถนนเพชรเกษม ช่องทางขาขึ้น หมู่ 9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา ทะเบียน ขต 2510 สงขลา เมื่อเห็นด่านตรวจได้หยุดรถ และเลี้ยวกลับตรงจุดยูเทิร์น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 150 เมตร เจ้าหน้าที่จึงไล่สกัดจนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ ทราบชื่อคนขับคือ นายสานิตย์ ปาลาวัน อายุ 30 ปี
ตรวจค้นในรถพบว่า บริเวณที่นั่งเบาะด้านหลังได้ดัดแปลงเอาเก้าอี้นั่งออกทั้งหมด โดยมีตะกร้าพลาสติกสีแดงวางซ้อนทับกันอยู่ จำนวน 31 ตะกร้า ส่วนด้านบนตะกร้ามีถุงตาข่ายสีดำวางทับอยู่จำนวน 13 ถุง ภายในถุงสีดำ และตะกร้าพลาสติกใส่ตัวนิ่มรวม 75 ตัว น้ำหนักตัวละประมาณ 5 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังพบถุงปุ๋ย 1 ถุง ภายในใส่เกล็ดตัวนิ่มตากแห้ง จำนวน 10 กิโลกรัม และงานช้าง 1 กิ่ง ยาว 3 ฟุต หนัก 2 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายสานิตย์ ปาลาวัน ผู้ต้องหาทราบว่า ของกลางทั้งหมดลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ทางด้าน จ.สตูล มีหัวหน้าใหญ่คนคอยสั่งการชื่อ “บังอะ” โดยมีการว่าจ้างตนให้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดตามจุดหมายเพื่อส่งต่อกันเป็นทอดๆ มีเป้าหมายปลายทางอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง แถบจังหวัดทางภาคเหนือ เพื่อลักลอบส่งต่อไปยังประเทศจีน
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า แก๊งค้าสัตว์ป่าดังกล่าวเป็นขบวนการใหญ่ทางภาคใต้ที่มีการลักลอบค้าสัตว์ป่า และงาช้าง จากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปส่งยังประเทศจีน เนื่องจากเป็นที่นิยมในการบริโภค และใช้เป็นเครื่องประดับบารมี โดยตัวนิ่มจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 1 หมื่นบาท หนังตัวนิ่มตากแห้ง กิโลกรัมละ 8000 บาท และงาช้าง กิโลกรัมละ 250,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ส่วนตัวนิ่มทั้งหมดได้ส่งมอบให้หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าชุมพร นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จ.พังงา ต่อไป