หนองบัวลำภู - ทหารร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับหนุ่มลักลอบขนตัวนิ่มและเต่าปูลู ได้ของกลางมูลค่า 3 ล้านบาท ขณะขนย้ายเตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่บริเวณจุดตรวจและจุดบริการร่วม จุดตรวจหน้าวัดบูรพาราม บ้านกกค้อ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู และทหารได้ร่วมกันควบคุมนายวีระพล ลักขณะ อายุ 27 ปี เป็นชาว อ.เวียงสา จ.น่าน ผู้ต้องหาลักลอบขนสัตว์ป่าคุ้มครองมาแถลงข่าว หลังจากผู้ต้องหาขับรถฝ่าด่านตรวจมุ่งหน้าเข้า อ.เมืองหนองบัวลำภู
เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่ากระทั่งสามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้ที่หน้าโรงงานน้ำตาล ก่อนเข้าตรวจค้นในรถยนต์พบสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นนิ่ม 30 ตัว เต่าปูลู 2 ตัว ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในถุงตาข่ายสีน้ำเงิน 25 ถุงเพื่อเตรียมส่งออกขายประเทศเพื่อนบ้าน
สอบสวนนายวีระพล ลักขณะ ผู้ต้องหาให้รับสารภาพว่า นำตัวนิ่มทั้งหมดมาจากชาวพม่าในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยจะนำไปส่งให้พ่อค้าในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย เพื่อนำส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยสัตว์ดังกล่าวมีราคาซื้อขายที่ประเทศไทยกิโลกรัมละ 4,000 บาท
แต่ถ้าส่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดจะมีราคาจะสูงถึงเกือบ 3 ล้านบาท และเคยใช้เส้นทางนี้ลักลอบขนตัวนิ่มมาแล้วหนึ่งครั้ง และเคยถูกตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2556 ปลายปีที่แล้ว พอพ้นโทษออกก็กลับมารับจ้างขนตัวนิ่มอีก
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากทางเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจร่วมอยู่ที่หน้าวัดบูรพาราม ขณะตรวจอยู่นั้นพบรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง 1379 น่าน จึงเรียกให้หยุด แต่ผู้ต้องหาพยามยามจะขับรถแหกด่านหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถสกัดให้รถหยุดและจับกุมผู้ต้องหาได้
"สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยโดนจับกุมในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูมาแล้วครั้งหนึ่ง และคาดว่ากลุ่มลักลอบขนตัวนิ่มนั้นทำเป็นขบวนการใหญ่ และทำมานานแล้ว" ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าว
จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลหาเพื่อนร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป