สุราษฎร์ธานี - อธิบดีอัยการภาค 8 วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ กับเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเกาะเต่า ทางสถานทูตติงทำคดีล่าช้า และขอให้ทำคดีให้รวดเร็วกว่านี้ ส่วนที่เกาะเต่า พระสุเทพ นำชาวเกาะเต่า และแรงงานต่างด้าวชาวพม่าร่วมทอดกฐินสามัคคีอย่างคึกคัก
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิบดีอัยการภาค 8 นายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 ร่วมกับคณะทำงาน ประกอบด้วย นายวิสูตร พ่วงใส รองอธิบดีอัยการภาค 8 และนายสมชาย อู่ทอง อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา ภาค 8 ชี้แจงความคืบหน้าคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยผ่านทางวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีการสื่อสาร 3 สถานที่พร้อมกัน ระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุด กับสำนักงานอธิบดีอัยการภาค 8 และสำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย โดยมี นายไพบูลย์ อาชวานันทกุล อัยการจังหวัดเกาะสมุย อธิบายในส่วนของความคืบหน้าของคดีตามกระบวนการยุติธรรม และแจ้งให้บิดา มารดา ของนายเดวิด เลอร์ และ น.ส.ฮันนาห์ ผู้เสียชีวิตทั้งคู่ว่ากฎหมายไทยให้สิทธิอะไรบ้าง
หลังจากอธิบดีอัยการ ภาค 8 ได้วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ได้กล่าวว่า วันนี้ได้แจ้งสถานทูตอังกฤษเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีชั้นอัยการของผู้เสียหาย ว่า กฎหมายไทยมีอะไรบ้าง ซึ่งได้ชี้แจงไปทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง เช่น สิทธิ บิดา มารดา ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ฟ้องคดีแพ่งและอาญาเองก็ได้ หรือขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีได้ และสถานทูตอังกฤษขอให้เราทำคดีให้รวดเร็วกว่านี้ และเห็นว่ากระบวนการพิจารณาคดีของไทยเราดำเนินการช้า ซึ่งทางอัยการได้ยืนยันไปว่า จะพิจารณาสั่งคดีโดยเร็ว ขณะนี้รอพนักงานสอบสวนส่งสำนวนเพิ่มเติมมา ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถสั่งฟ้องได้ และขณะนี้ก็รอญาติผู้เสียชีวิตติดต่อกลับมายืนยันว่า จะดำเนินการอย่างไร ในส่วนประเด็นการสั่งฟ้องคดี โดยอัยการจะเน้นประเด็นฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของตน เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดอาญาเป็นหลัก ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็เป็นประเด็นรองตามที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาไว้
ในวันนี้ บนเกาะเต่า พระสุเทพ ปภากโร ได้ร่วมทอดกฐินสามัคคีที่วัดเกาะเจริญสันติธรรม (วัดเกาะเต่า) อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังเกิดเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษที่บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า ครบ 1 เดือน โดยบรรยากาศการแห่องค์กฐินเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนบนเกาะเต่าได้ร่วมแรงร่วมใจกันประดับพุ่มกฐิน จัดบวนแห่กฐินกันอย่างสวยสดงดงาม ในขณะที่ชุมชนแรงงานชาวพม่าบนเกาะเต่า ก็ได้จัดริ้วขบวนแห่องค์กฐินร่วมกับชาวเกาะเต่าสวยสดงดงามอย่างยิ่ง โดยมีการแสดงศิลปวัฒธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวพม่าโชว์ประชันกับศิลปวัฒธรรมพื้นบ้านของชาวเกาะเต่า ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
โดยพระสุเทพ ได้กล่าวต่อชาวเกาะเต่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบุคคลที่ไม่รู้เรื่องก็ได้ประณามชาวเกาะเต่าไปในทางไม่ดี ทางตนเองก็เขียนลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมชี้แจงความจริงให้ฟังว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนสืบสวนได้พยานหลักฐานชัดเจนทั้งพยานบุคคล ทั้งพยานวัตถุ และ DNA และได้ชี้แจง และรับรองไปแล้ว ตามปกติตนเองก็ไม่ได้ชี้แจงเข้าข้างตำรวจ แต่ครั้งนี้เห็นว่าคนจำนวนมากในประเทศเข้าใจคนบนเกาะเต่าไปในทางที่ผิด และคิดว่าอาจมีคนติดตามเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนบ้างจึงเขียนชี้แจงไป และไม่หวังจะไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ใคร่บอกว่าอาตมานะหยุดแล้วแต่คนทั้งหลายควรจะหยุดด้วย และขณะนี้ตนเองได้บวชมาเป็นเวลา 3 เดือน กับ 1 วัน และที่สวนโมกข์ ญาติโยมที่มาเยี่ยมส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม กปปส. ทั้งนั้น บรรดาผู้สูงอายุที่ไปเยี่ยมเยียนต่างยกมือสาธุขอให้บวชไปนานๆ หรือบวชไม่สึกได้ยิ่งดี แต่กลุ่มคนที่เป็นวัยรุ่น หรือกลุ่มแกนนำต่างไปกระตุกจีวรอยู่เรื่อยๆ พร้อมบอกหลวงพี่อย่าอยู่นานให้สึกเร็วๆ เพราะมีงานต้องทำกันอีกมาก
“ยืนยันว่าตั้งใจบวชศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า และปฏิบัติธรรมะจริงจัง ซึ่งหวังจะได้บุญได้กุศลอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากการร่วมต่อสู้กันมา และเมื่อบวชครบ 204 วันตามที่ได้ออกมาต่อสู้บนท้องถนนจะพิจารนาวันสึกอีกที”
