ปัตตานี - ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้ วอนทุกฝ่ายปกป้องโรงเรียน ดึงชุมชนเข้ามาช่วยเป็นยุทธศาสตร์สันติสุข
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยถึงกรณีเหตุลอบเผาโรงเรียน ว่า ในฐานะเป็นผู้นำองค์กรครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอหยิบยกนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า 1 ปี จังหวัดชายแดนภาคใต้เหตุการณ์เบาบางและสงบลง ตนขอฝากหน่วยงานความมั่นคง และทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงนโยบายเป็นเรื่องจริง ถึงเวลาแล้วที่ คสช.และนายกฯ ต้องคืนความสุขแก่ประชาชนในชายแดนใต้
ซึ่งได้ต่อสู้กับสถานการณ์มาเกือบ 11 ปี แต่จากข้อมูลสถิติการเกิดเหตุต่อครู และสถานศึกษาน้อยลงหากเทียบกับปี 48-51 แต่ถามว่าทำไมเหตุถึงได้กลับมา ถึงแม้ว่าครูยังเป็นเป้าหมายรวมไปถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างอาคารสถานศึกษาของโรงเรียน การเผาโรงเรียนไม่ใช่เสียหายแค่อาคาร มันหมายถึงการทำร้ายโอกาสการศึกษาของเยาวชนที่ต้องเติบโตเป็นอนาคตของชาติ จึงขอร้องว่า การเผาโรงเรียนไม่ควรเกิดขึ้นเพราะเป็นสมบัติที่จะนำพาเยาวชนมีอนาคตที่ดี
และสิ่งที่ตนเคยพูดมาตลอดนับ 10 ปี ถึงแนวทางการแก้ปัญหาคือ ทำอย่างไรที่จะให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ตนมองว่าถ้าชุมชนไม่เป็นเกราะกำบังในการดูแลโรงเรียน และครู นักเรียนให้มีความปลอดภัยก็ยากที่จะเกิดความมั่นใจให้แก่บุคลากร และสถานศึกษา ฉะนั้นหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือ ชรบ.ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนให้เกิดการรักโรงเรียน ให้คิดว่าโรงเรียนเป็นของเขา การเผาโรงเรียนเหมือนการทำร้ายชุมชน ตนเชื่อว่าใคร หรือคนร้ายก็เข้าไปไม่ได้
ประการต่อไปคือ เมื่อหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงมียุทธศาสตร์การปฏิบัติ ก็ควรมียุทธศาสตร์การร่วมมือกับชุมชนให้มีคุณภาพด้วย ให้ชุมชนเข้าใจว่าการศึกษามีความสำคัญ การที่เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ หรือเรียนในสถานที่ร้อนอบอ้าวที่ไม่ใช่บรรยากาศที่แท้จริงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ และที่สำคัญคือ ครูต้องปลอดภัย ยุทธศาสตร์นี้ต้องทำร่วมกันโดยเฉพาะช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหาร ตนเชื่อว่าการทำงานน่าจะเป็นเอกภาพมากขึ้น ถ้าทุกฝ่ายยกระดับการดูแลที่เข้มแข็งมุ่งผลประโยชน์ของประชาชน ครู เป็นหลักตนเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น
ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนาภคใต้ กล่าวอีกว่า และสิ่งหนึ่งที่จะเป็นยุทธศษสตร์สำคัญที่จะแก้ปัญหาคือ คณะกรรมการสถานศึกษาที่อยู่ในโรงเรียน เพราะกลุ่มเหล่านี้เป็นคนในชุมชน มีทั้งตัวแทนศาสนา ผู้นำชุมชน ครู คนเหล่านี้ควรให้เค้าเข้ามามีบทบาทเรื่องยุทธศาสตร์ที่สำคัญด้วย ดูแลปกป้อง และสนับสนุน ไม่ใช่ให้เฉพาะระเบียบคำสั่งหรือแนวทาง ต้องมีงบประมาณในการจัดการด้วย โดยเฉพาะถ้าโรงเรียนไหนที่มีผลงานดี ไม่ถูกเผา ครูไม่ถูกยิง ไม่มีการถูกข่มขู่ น่าจะต้องประเมินพิจารณาเป็นพิเศษในเขต ตรงนี้ให้เห็นภาพว่า สังคมชุมชนโรงเรียนสันติสุขต้องไปด้วยกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานความมั่นคงควรทบทวนการทำงานให้ดี ไม่ว่าการปฏิบัติของหน่วยและชุมชน โรงเรียนที่ต้องเอื้อการทำงานดูแลสถานการณ์ให้ดีขึ้น สิ่งที่พูดทั้งหมดเป็นความหวังที่สูงสุดของประชาชน และครูในพื้นที่ว่ามันจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะให้เยาวชนมีการักษาที่ดี และเป็นอนาคตของชาติ และเมื่อทุกฝ่ายร่วมกันทำงานภายในการนำของนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์จะต้องดีขึ้น ข่าวเศร้า โรงเรียนถูกเผาจะไม่มี คุณภาพทางการศึกษาดีขึ้น ดินแดนสันติสุขจะกลับมาแน่นอน
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยถึงกรณีเหตุลอบเผาโรงเรียน ว่า ในฐานะเป็นผู้นำองค์กรครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอหยิบยกนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า 1 ปี จังหวัดชายแดนภาคใต้เหตุการณ์เบาบางและสงบลง ตนขอฝากหน่วยงานความมั่นคง และทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงนโยบายเป็นเรื่องจริง ถึงเวลาแล้วที่ คสช.และนายกฯ ต้องคืนความสุขแก่ประชาชนในชายแดนใต้
ซึ่งได้ต่อสู้กับสถานการณ์มาเกือบ 11 ปี แต่จากข้อมูลสถิติการเกิดเหตุต่อครู และสถานศึกษาน้อยลงหากเทียบกับปี 48-51 แต่ถามว่าทำไมเหตุถึงได้กลับมา ถึงแม้ว่าครูยังเป็นเป้าหมายรวมไปถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างอาคารสถานศึกษาของโรงเรียน การเผาโรงเรียนไม่ใช่เสียหายแค่อาคาร มันหมายถึงการทำร้ายโอกาสการศึกษาของเยาวชนที่ต้องเติบโตเป็นอนาคตของชาติ จึงขอร้องว่า การเผาโรงเรียนไม่ควรเกิดขึ้นเพราะเป็นสมบัติที่จะนำพาเยาวชนมีอนาคตที่ดี
และสิ่งที่ตนเคยพูดมาตลอดนับ 10 ปี ถึงแนวทางการแก้ปัญหาคือ ทำอย่างไรที่จะให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ตนมองว่าถ้าชุมชนไม่เป็นเกราะกำบังในการดูแลโรงเรียน และครู นักเรียนให้มีความปลอดภัยก็ยากที่จะเกิดความมั่นใจให้แก่บุคลากร และสถานศึกษา ฉะนั้นหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือ ชรบ.ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนให้เกิดการรักโรงเรียน ให้คิดว่าโรงเรียนเป็นของเขา การเผาโรงเรียนเหมือนการทำร้ายชุมชน ตนเชื่อว่าใคร หรือคนร้ายก็เข้าไปไม่ได้
ประการต่อไปคือ เมื่อหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงมียุทธศาสตร์การปฏิบัติ ก็ควรมียุทธศาสตร์การร่วมมือกับชุมชนให้มีคุณภาพด้วย ให้ชุมชนเข้าใจว่าการศึกษามีความสำคัญ การที่เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ หรือเรียนในสถานที่ร้อนอบอ้าวที่ไม่ใช่บรรยากาศที่แท้จริงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ และที่สำคัญคือ ครูต้องปลอดภัย ยุทธศาสตร์นี้ต้องทำร่วมกันโดยเฉพาะช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหาร ตนเชื่อว่าการทำงานน่าจะเป็นเอกภาพมากขึ้น ถ้าทุกฝ่ายยกระดับการดูแลที่เข้มแข็งมุ่งผลประโยชน์ของประชาชน ครู เป็นหลักตนเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น
ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนาภคใต้ กล่าวอีกว่า และสิ่งหนึ่งที่จะเป็นยุทธศษสตร์สำคัญที่จะแก้ปัญหาคือ คณะกรรมการสถานศึกษาที่อยู่ในโรงเรียน เพราะกลุ่มเหล่านี้เป็นคนในชุมชน มีทั้งตัวแทนศาสนา ผู้นำชุมชน ครู คนเหล่านี้ควรให้เค้าเข้ามามีบทบาทเรื่องยุทธศาสตร์ที่สำคัญด้วย ดูแลปกป้อง และสนับสนุน ไม่ใช่ให้เฉพาะระเบียบคำสั่งหรือแนวทาง ต้องมีงบประมาณในการจัดการด้วย โดยเฉพาะถ้าโรงเรียนไหนที่มีผลงานดี ไม่ถูกเผา ครูไม่ถูกยิง ไม่มีการถูกข่มขู่ น่าจะต้องประเมินพิจารณาเป็นพิเศษในเขต ตรงนี้ให้เห็นภาพว่า สังคมชุมชนโรงเรียนสันติสุขต้องไปด้วยกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานความมั่นคงควรทบทวนการทำงานให้ดี ไม่ว่าการปฏิบัติของหน่วยและชุมชน โรงเรียนที่ต้องเอื้อการทำงานดูแลสถานการณ์ให้ดีขึ้น สิ่งที่พูดทั้งหมดเป็นความหวังที่สูงสุดของประชาชน และครูในพื้นที่ว่ามันจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะให้เยาวชนมีการักษาที่ดี และเป็นอนาคตของชาติ และเมื่อทุกฝ่ายร่วมกันทำงานภายในการนำของนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์จะต้องดีขึ้น ข่าวเศร้า โรงเรียนถูกเผาจะไม่มี คุณภาพทางการศึกษาดีขึ้น ดินแดนสันติสุขจะกลับมาแน่นอน
