พังงา - นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นำกำลังหลายฝ่ายบุกค้นแคมป์กักตัวชาวโรฮิงญากลางป่าโกงกางในพื้นที่ ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก่อนที่จะส่งตัวไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศที่ 3 แต่รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่จึงหลบหนีไปกว่า 200 คน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วย จ.ส.อ.อรรณพ อิ่มโอษฐ หัวหน้าชุดรักษาความสงบ ร.25 พัน 3 ค่ายวิภาวดีรังสิต พ.ท.สาธิต หนูประสิทธิ์ สัสดีอำเภอตะกั่วป่า นายพิภพ หนูขวัญ ปลัดอำเภอตะกั่วป่า กำลังเจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่ ชรบ.บ้านบางมรวน กว่า 40 คน เข้าตรวจสอบพื้นที่กักตัวชาวโรฮิงญาบริเวณรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 3-หมู่ที่ 5 เกาะกลาง บ้านบางใหญ่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยได้ใช้เรือท้องแบนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแคมป์ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวชาวโรฮิงญา หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาวโรงฮิงญาได้เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ต.ค.57 ที่ผ่านมา เป็นชาวโรงฮิงญา จำนวน 53 คน และคนไทยอีก 2 คน คือ นายประกอบ หมาดอ่าดำ อายุ 43 ปี และนายภูวรินทร์ บุญเลี่ยง อายุ 18 ปี ทั้ง 2 คน รับสภาพว่า เป็นคนดูต้นทางเพื่อให้รถมารับชาวโรฮิงญาไปยังจุดหมายปลายทาง และยังให้การว่า ยังมีชาวโรฮิงญาที่ถูกกักตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีกกว่า 200 คน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า พื้นที่เกาะกลาง บ้านบางใหญ่ ต.ตะกั่วป่า เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีกลุ่มชาวโรฮิงญามาพักพิงก่อนจะเดินทางไปจังหวัดต่างๆ และประเทศที่ 3 โดยมีนายหน้าจัดหาที่ทำงาน ชาวโรฮิงญาจะอาศัยมาทางเรือเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุมแล้วมาขึ้นเรือที่ดังกล่าวโดยมีนายหน้าพามาอาศัยยังจุดนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวไม่พบว่ามีชาวโรฮิงญาอยู่ในบริเวณนั้นแต่อย่างใด
โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่โล่ง เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ อยู่ในป่าโกงกางลับตาคน มีลำคลองตัดผ่าน มีการขึงเต็นท์ผ้าใบทำเป็นที่พัก พบเศษอาหารที่ใส่ถุงพลาสติกกว่า 100 ถุง เสื้อผ้า ยารักษาโรค และกล่องนมโรงเรียนจำนวนมาก แต่ไม่พบชาวโรฮิงญาแม้แต่คนเดียว เจ้าหน้าที่คาดว่า นายหน้าน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ที่เตรียมเข้าจับกุมเลยปล่อยชาวโรฮิงญากว่า 200 คนให้หนีไป ซึ่งได้ทำการเก็บหลักฐานภายในแคมป์ และรื้อที่พักพิงออกทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐาน
สำหรับชาวโรฮิงญาที่เหลืออยู่ จำนวน 53 คน ที่จับกุมได้เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ที่พัก และให้การดูแลตามหลักมนุษยชนที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.พังงา และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ มาดำเนินการช่วยเหลือและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป