คอลัมน์ : แกะสะเก็ด
โดย...ประเสริฐ เฟื่องฟู
งานช้าง งานใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตที่ “ไมตรี อินทุสุต” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ทิ้งไว้ให้ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ เข้ามาสานต่อหลังรับตำแหน่ง ที่เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมคือ การจัดระเบียบปฏิรูปบ้านเมืองตามนโยบายของ คสช.
จัดระเบียบหาด จราจร และอิทธิพลแท็กซี่ป้ายดำ
นั่น,... เป็นเรื่องสำคัญเดิมๆ ที่ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” ผู้ว่าฯ คนใหม่ หรือพ่อเมืองภูเก็ตต้องเดินหน้าสานต่อ ซึ่งก็ได้จัดเป็น“วาระของจังหวัด” อันดับแรก
โดยการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลจัดการ แก้ปัญหาให้ครบวงจร และต้องรายงานผลทุกเดือน
งานนี้ เป็นงานหลักที่พ่อเมืองหมาดๆ ผู้ถ่อมตนบอกผ่านสื่อว่า เพิ่งเป็นผู้ว่าฯ มาแค่ปีเดียวที่ราชบุรี ยังไม่เก่งพอ งานทุกอย่างต้องได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ และประชาชน
แต่... ขณะที่พ่อเมืองภูเก็ตผู้ถ่อมตนคนนี้ เข้ามานั่งเก้าอี้ได้แค่อาทิตย์เดียว ก็มีงานใหญ่ระดับชาติซุ่มเงียบ อย่างที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของบ้านก็ไม่มีโอกาสรู้ นอกจากผู้ที่อยู่ในกลุ่ม และผู้เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่คน รอพิสูจน์การบริหารจัดการอีกงานหนึ่ง ที่ใช้ภูเก็ตเป็นสถานที่รองรับ นั่นคือ
“การแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4”
ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ โดยกระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว เป็นแม่งาน กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14-23 พฤศจิกายน 2557 ที่จังหวัดภูเก็ต
งานนี้โผล่มาอย่างเงียบเชียบ ไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ออกตระเวนสอบถามจากหลายปาก หลายคนที่ผ่านไปพบเจอ ได้รับคำตอบคือ ไม่ทราบ และไม่รู้ แม้กระทั่งในกลุ่มที่เล่นเฟซบุ๊ก และเล่นไลน์ ที่ว่ากันว่า เป็นผู้รู้มาก และหูตากว้างไกล ยังเป็นงง!
แล้วจู่ๆ พ่อเมืองใหม่มาถึงกระโดดรับลูกทันที ไม่ดูตาม้าตาเรือ เดินหน้าตามที่บรรดาลิ่วล้อสอพลอปูทางให้ หน้าบานเป็นกะโล่
ฝันหวานได้งานใหญ่มาโชว์ฝีมือ ภูเก็ตจะได้ลาภใหญ่ ร่ำรวยกันทั่วหน้า จะมีนักกีฬาชายหาด กับผู้ติดตามจาก 47 ประเทศ มาเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะ ขนเงินมาหว่านเป็นฟ่อนๆ ว่ากันว่า ล้วนมีกำลังซื้อมือเติบทั้งเพ
และแล้วก็มอบหมายงานให้ฝ่ายต่างๆ รับผิดชอบตามที่บรรดากุนซือจัดโผให้ แจงต่อสื่ออย่างเป็นปลื้ม
“ภูเก็ตมีหน้าที่ต้อนรับ จัดการเรื่องที่พัก รถรับส่งนักกีฬา อาหาร แล้วติดป้ายประชาสัมพันธ์งานให้ประชาชนที่ยังไม่รู้ ได้รู้ จะได้ให้ชาวจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งผู้ที่มาอยู่ภูเก็ต มาทำมาหากิน ช่วยกันเป็นเจ้าภาพ เจ้าบ้านต้อนรับนักกีฬา และผู้ติดตามกว่า 3 พันคน รวมทั้งนักท่องเที่ยวอีกนับหมื่นคน”
ฝันหวานกันระเบิดเถิดเทิง งานนี้เงินจะสะพัด สร้างรายได้ให้กว่า 400 ล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ครับ,.. เป็นเรื่องจริง ที่ประชาชนชาวภูเก็ตส่วนใหญ่ ผู้ไม่ได้เกี่ยวข้อง ยังไม่รู้เรื่องงานนี้
ด้าน “สันติ ป่าหวาย” การท่องเที่ยว และกีฬา จังหวัดภูเก็ต ปั่นจิ้งหรีด จนเห็นว่า หัวเรือใหญ่เด้งหน้าเด้งหลัง แอ่นอกรับ ก็ตีปีกเป็นไก่รุ่นสุดคึกคัก ได้โอกาสสนองนโยบายปะเหลาะรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ นายใหม่ ตีเกราะเคาะปี๊บ ระดมผู้ประกอบการบ้านใกล้เรือนเคียงฝั่งอันดามัน ทั้งกระบี่ พังงา ภูเก็ตเข้าร่วมสังฆกรรม เพื่อความมันส์ อ้อนโรงแรมให้จัดแพกเกจทัวร์ราคาพิเศษ ถูกกว่าช่วงไฮปกติประเคนให้
โอ๊ย... โคตรสนุก น่าตื่นเต้น
ส่วนสถานที่จัดแข่งขัน หรือสนามแข่งขัน “กีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4” ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แม้แต่ผู้ว่าฯ เอง ก็น่าจะไม่รู้ และยังไม่เห็น เพราะยังไม่ได้สร้าง!!
สนามกีฬา สนามแข่งขันเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องมีความพร้อม ไม่ว่าจะดับโลก ระดับชาติ หรือระดับไหนๆ รับเป็นเจ้าภาพต้องพร้อมเรื่องสนาม ต้องอวด ต้องโชว์ ต้องทุ่มเทงบประมาณลงมาแจกจ่าย กินกันให้ทั่วถึง ตามธรรมเนียมข้าราชการไทย
แต่นี่... สนามก็ยังไม่รู้ว่า อยู่ที่ไหน? รูปร่างอลังการ มโหฬารขาดไหน?
ในการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์สื่อแต่ละครั้ง ไม่เคยเอ่ยถึงสนามแข่งขัน สื่อภูเก็ตก็ดันไม่ถาม หรือดันลืมถาม มัวตะลึงความหล่อของผู้ว่าฯ ใหม่
ชาวภูเก็ตรู้อยู่ที่เดียว ที่แข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ระดับชาติ อยู่หาดกะรน ที่ตรงนั้นเหมาะเพราะเป็นชายหาดพื้นทรายที่ราบอยู่แล้ว ไม่กว้างนัก ไม่ต้องทำลาย ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้มันวอดวาย
มาอีคราวนี้ คงไม่ใช่วอลเลย์บอลชายหาดอย่างเดียว แค่ชื่อ “กีฬาเอเชียนบีชเกมส์” ก็บอกอยู่แล้วว่า มันต้องมีกีฬาชายหาดหลายประเภท ซึ่งต้องใช้ชายหาดขนาดใหญ่ กว้างขวาง แล้วอยู่ที่ไหน ต่างอุบกันเงียบ
การใช้งบประมาณก็ไม่มีการเปิดเผย การกีฬาฯ อาจจะกลัวต้องเสีย เฉลี่ยส่วนแบ่ง
ทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะสนามแข่งขันล้วนเป็นเรื่องลึกลับ หรืออาจจะทำให้เป็นเรื่อง “เซอร์ไพรส์”ของคนทั้งโลก
แต่หลังการแถลงข่าวของ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” พ่อเมืองคนใหม่ และ “สันติ ป่าหวาย” การท่องเที่ยวฯ ต่อสื่อได้แค่ 2-3 วัน ก็เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นในโลกโซเชียล
มีคนถ่ายรูปรถไถ รถเกรดดิน ที่เป็นเครื่องกลหนัก กำลังไถปรับหาดทรายชายทะเล หาดกะรน ราบเป็นหน้ากลอง ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก โพตส์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์
ไม่น่าเชื่อ “วินัย ชิดเชี่ยว” กำนันตำบลกะรน เจ้าของบ้าน เพื่อนไถหน้าบ้านที่สวยงามจนเละเทะกลับไม่รู้เรื่อง กรรมเวรของชาวกะรน
ส่วนองค์กรปกครองท้องถิ่น เทศบาลตำบลกะรน ผู้บริหารทั้งทีมกำลังนั่งฝันนอนฝันถึงเรือนจำ ด้วยข้อหาพัวพันกับแท็กซี่ป้ายดำอิทธิพล คงไม่มีเวลามาสนใจ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุดหล่อ “ภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์” ผอ.สนง.เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายหาด ชายทะเลภูเก็ต ไปนอนหลับคุดคู้อยู่บ้านไหน ใครเจอช่วยปลุกไปค้นเอกสารดูหน่อยว่า มีหนังสือขออนุญาต “ทำลายหาดกะรน” มาถึงเมื่อไร จัญไรตัวไหนอนุมัติเห็นชอบ
เอามากางให้ประชาชน และชาวโลกดูหน่อย
เชื่อแน่คนทั้งโลก และโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติ คงไม่มีใครเห็นด้วยต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมแบบนี้แน่!!
สผ.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่ว่าแน่ ก็น่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ กลับนอนให้เพื่อนเอาตีนลูบหน้าสบายใจเฉิบ พิลึกดี
ด้านกลุ่มคนรักภูเก็ต ที่เคยต่อสู้มาหลายเวที หลายสนาม ก็คงจะล้า เหนื่อย หมดแรงดิ้น หรืออาจจะกลัวแรงดีด หรือแรงบีบจาก คสช.ขอพักฟื้น
แต่ถ้ามันสายเกินแก้ ชาวภูเก็ตที่รักบ้านรักเมืองก็ควรจะได้แสดงออกให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า เราไม่เห็นด้วยต่อการทำลายทรัพยากรธรรมชาติแม้เพียงเล็กน้อย แต่มันมีค่ามหาศาล โดยการใช้วิธีอหิงสา เตรียมผ้าโปสเตอร์ใหญ่-ยาว การกีฬาที่มาทำลายสิ่งแวดล้อมฯ ไปยืนอย่างสงบที่หาดกะรน ในวันเปิดการแข่งขัน ประจานความอุบาทว์ของพวกจัญไรให้ก้องโลก ส่งไลน์ไปเชิญให้ “กลุ่มกรีนพีซ” เข้าร่วมด้วย
จะได้เพิ่มความคึกคักให้เมืองภูเก็ตสมใจอยาก
อนิจจา หาดกะรนที่เคยมีหาดเป็นสัน เป็นเนิน ที่สั่งสมมานับร้อยปีเป็นเขื่อนกั้นคลื่นลม และละอองน้ำเค็มที่พัดขึ้นมาบนฝั่ง บนถนนยามลมแรง รวมทั้งผักบุ้งทะเลที่เหลือไม่มากนัก ออกดอกสีม่วงบานสะพรั่งบนหาดกะรนยามเช้า ให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้ชื่นชม กลับถูกทำลายไปในชั่วพริบตาเดียว ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก
เป็นการกระทำของพวกสัตว์นรกที่มาอยู่ภูเก็ตเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าวไม่กี่ปี
แค่หวังผลประโยชน์ เอาหน้า เอาผลงานประจบนาย จัญไรมั้ย?
ไอ้แค่คาดคะเนจะได้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินสะพัด 400 ล้านบาท กับการทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่สั่งสมมาเป็นร้อยปีพันปี ที่ควรเก็บไว้ให้คนทั้งโลกได้ชื่นชม และให้เป็นมรดกลูกหลานได้ศึกษาได้ดู มันคุ้มกันมั้ย
ขอยืมประโยคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.มาถามหน่อยเถอะ
“เอาสมองส่วนไหนมาคิดกัน”
และขอถาม “นิสิต จันทร์สมวงศ์” ผู้ว่าฯ ภูเก็ต รู้ตัวหรือยังว่า ท่านถูกตบหน้าอย่างแรงด้วย งานกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ บนความพินาศของหาดกะรน ท่านคงภูมิใจ.