ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายเภสัชกรภาคใต้ ร่วมประชุมต้านแก้ไข พ.ร.บ.ยา 2510 ขณะนี้ผ่านความเห็นชั้นกฤษฎีกา จ่อเข้า สนช.แล้ว พบพิรุธมีการหมดเม็ดไม่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน หวั่นมีการแก้ไขอาจมีวาระซ่อนเร้น รายละเอียดผิดหลักสากลทางด้านการจ่ายยา พร้อมเตรียมเคลื่อนไหวยึดโมเดลต้าน พ.ร.บ.นิรโทษฯ
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากการมีการผลักดันให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ยา ปี 2510 โดยขาดการมีส่วนร่วม จนทำให้ร่างที่แก้ไขมีความผิดเพี้ยนไปจากหลักการที่ควรจะเป็น ผิดหลักสากลในด้านความปลอดภัยจากยา และการคุ้มครองผู้บริโภค จึงทำให้มีการนัดหมายแกนนำเภสัชกรในภาคใต้ ร่วมประชุมปรึกษาหารือเพื่อกำหนดจังหวะก้าวในการเคลื่อนไหว เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ ทั้งนี้ ได้มีแกนนำเภสัชกร จำนวน 20 คน เข้าร่วมการหารือที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.)
ผลการหารือที่ประชุมมีความร่วมกันว่า ร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่นี้ มีความสับสน และข้อสังเกตที่น่าแปลกใจหลายประการ โดย รศ.ดร.ภญ.โพยม วงศ์ภูวรักษ์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะประธานกลุ่มได้กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมีการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ว่า
1.การแก้ไข พ.ร.บ.ยา ฉบับดังกล่าวนั้นมีการผลักดันโดย อย.อย่างเงียบๆ จนร่างผ่านการแก้ไข และพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และพร้อมที่จะนำเข้าพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยที่ไม่มีกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นเลย แม้แต่เภสัชกรทั่วประเทศก็มีการรับรู้ที่น้อยมากๆ จนทำให้เกิดความคลางแคลงใจถึงผลประโยชน์แอบแฝงอันสืบเนื่องมาจากการแก้ไข พ.ร.บ.ได้
2.สาระหลักของ พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่นี้ มีสาระในการแก้ไขหลักคือ การขยาย หรือเพิ่มบทบาทการจ่ายยา ผลิตยา ผสมยา แบ่งบรรจุยา ให้แก่ทุกวิชาชีพด้านสุขภาพ ตั้งแต่แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักการแพทย์แผนไทย นายสัตวแพทย์ อย่างกว้างขวาง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อประชาชน และขัดต่อหลักสากลในด้านความปลอดภัยทางยา ซึ่งเป็นสารอันตราย รวมทั้งในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีมิติของการคุ้มครองผู้บริโภค และคุ้มครองประชาชนน้อยมาก เช่น การที่ผู้ประกอบวิชาชีพสามารถผสมยาใช้เองโดยไม่มีการเปิดเผยสูตร ไม่ต้องขอจดทะเบียนต่อ อย. ไม่ต้องมีการตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ปรุงยา นอกจากนี้ ยังไม่มีการควบคุมการส่งเสริมการขายหรือการโฆษณา ซึ่งขัดต่อหลักการที่ควรจะเป็น
ในการหารือได้มีการกำหนดท่าที และกลวิธีในการเคลื่อนไหว ด้วยการสร้างกระแสให้สังคมเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของ พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ และจะเชิญชวนโรงพยาบาลต่างๆ มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งร้านขายยาจากภาคเอกชน และวิชาชีพสุขภาพที่เห็นถึงโทษภัยของ พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ ได้ร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อการคัดค้าน พ.ร.บ.ยาฉบับลักไก่ละเลยประชาชนฉบับนี้อย่างพร้อมเพรียง โดยที่ประชุมได้ประกาศจุดยืน และข้อเรียกร้องที่จะให้มีการทบทวน และแก้ไข พ.ร.บ.ยา ฉบับนี้ใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการที่สากล มีความปลอดภัย และคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ รูปแบบการแสดงออกทางสัญลักษณ์นั้นจะใช้ในลักษณะเดียวกับที่มีการเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเหมาเข่ง ซึ่งทางกลุ่มงานเภสัชกรรมโรงพยาบาลพะเยา และสำนักงานสาธารณสุขพะเยา ที่ได้แสดงออกไว้เป็นตัวอย่างแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา
