กระบี่ - นายกท่องเที่ยวเกาะลันตา อัด กฟผ.คุกคาม ขนคน ปกปิดข้อมูลทำประชาพิจารณ์ ค.3 โครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้วจุดขนถ่ายถ่านหิน ชี้ที่ผ่านมา ไม่เคยบอกความจริงทั้งหมดแก่ประชาชน วอนรัฐพักโครงการฯ ไว้ก่อน
วันนี้ (29 ก.ย.) นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังการผลิต 800 เมกะวัต ในพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อทบทวนร่างรายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3 (ค.3) โครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว จ.กระบี่ จัดขึ้น ณ ศาลาประชาคม อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการชี้ให้เห็นว่า กฟผ.ไม่มีความจริงใจต่อชาวจังหวัดกระบี่ เพราะจากการสังเกตพบว่า มีการขนคนจากนอกพื้นที่เข้ามาร่วมเวทีเป็นจำนวนมาก
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวอีกว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินในครั้งนี้ของสมาคมฯ เพื่อรักษาสมบัติที่ธรรมชาติให้ไว้แก่จังหวัดกระบี่ และแสดงออกให้ กฟผ.เห็นว่า หากเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นในจังหวัดกระบี่ ก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ไม่ใช่แต่เฉพาะภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ แต่จะกระทบเป็นวงกว้างทั้งอันดามัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวของสมาคมฯ ก็เพื่อที่จะไม่ให้ กฟผ.เอาไปอ้างได้ว่า ที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวไม่เคยสนใจ และคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และที่ผ่านมา ทาง กฟผ.เองก็ไม่เคยได้ศึกษาผลทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่แม้แต่ครั้งเดียว
“เชื่อว่าเมื่อมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นก็จะส่งผลกระทบเหมือนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ชาวบ้านต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อการไฟฟ้าเอง และบางรายเวลาได้ผ่านมาเกือบ 10 ปี คดีก็ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งถ้าหากว่าจังหวัดกระบี่ มีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นจริงๆ ถ้ามันเกิดเหมือนกับแม่เมาะ เชื่อว่า กฟผ.ก็จะไม่รับผิดชอบเช่นเดียวกัน ถ้าหากว่า กฟผ.มีความจริงใจ ก็จะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับชาวจังหวัดกระบี่ หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่า กฟผ.จะมีการชดเชย หรือเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกรณี หากว่าทำได้ก็เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งก็คงไม่เกิด และที่สำคัญ ข้อมูลทุกอย่าง กฟผ.ต้องกล้าเปิดเผยความจริง หรือข้อมูล เพราะที่ผ่านมา มีการบิดเบือนข้อมูลและความจริงอยู่ตลอด”
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพที่ กฟผ.ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. อปพร.หลายร้อยนายเข้ามาคุมเวที ทำให้ภาพออกมาเหมือนกับเป็นการคุกคามประชาชนเพราะกลัวถูกชาวบ้านที่คัดค้านล้มเวที ซึ่งการทำลักษณะดังกล่าวของ กฟผ.เพียงเพื่อให้สามารถทำเวที ค.3 ได้เท่านั้น โดยไม่สนใจว่าจะต้องได้ด้วยวิธีใด และภาพลักษณ์ที่เสียหายเกิดขึ้นตามมา แต่โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้กลุ่มที่คัดค้านได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่บริเวณปากทางเข้าเวที โดยไม่มีการขับไล่ หรือใช้ความรุนแรง และอยากจะให้ภาพที่เกิดขึ้นสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ระงับโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไว้ก่อน จนกว่า กฟผ.จะยอมรับข้อเสนอของประชาชนที่คัดค้าน และเปิดเผยความจริงทั้งหมด
