ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จ.ภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาไกด์เถื่อน บริษัททัวร์ผิดกฎหมาย ย้ำจับจริงตั้งแต่ 22 ก.ย.เป็นต้นไป
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 ก.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสันติ ป่าหวาย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 เป็นประธานการประชุมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ครั้งที่ 2/2557 โดยมี น.ท.พรพรหม สกุลเต็ม เสนาธิการทหารกองปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 และผู้ควบคุมความสงบเรียบร้อยในจังหวัดภูเก็ต ทหารเรือจากทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ทั้ง 10 สถานี ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสนามบินภูเก็ต ฝ่ายปกครองทั้ง 3 อำเภอ ตัวแทนจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสันติ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีการสรุปผลการปฏิบัติงานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการดำเนินการระยะแรกของการปฏิบัติการปราบปรามบริษัททัวร์ผิดกฎหมายและไกด์เถื่อน ภายหลังการมอบหมายให้ตำรวจทั้ง 10 สถานี จัดตั้งทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นชุดเฉพาะกิจทำงานร่วมกับทางชุดเฉพาะกิจตำรวจท่องเที่ยว และทหารเรือ ออกตรวจสอบ/ตักเตือน บริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีการตรวจพบว่าบริษัทนำเที่ยวที่เคยขึ้นทะเบียนไว้นั้นได้ปิดกิจการไปแล้ว
และการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อดำเนินการต่อเนื่องในระยะที่ 2 ซึ่งเข้าสู่การจับกุมดำเนินคดีต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งในส่วนของบริษัทนำเที่ยวที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไกด์เถื่อนทั้งชาวไทย และต่างชาติ ขณะเดียวกัน ก็ให้ไกด์ไทยที่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ให้มาขึ้นทะเบียนต่อทางสำนักงานทะเบียนฯ ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ถึงวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาฯ ภายในสนามกีฬาสุระกุล นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนเป็นต้นไป ชุดเฉพาะกิจแต่ละพื้นที่ก็จะออกตรวจจับไกด์เถื่อนทั้งชาวไทย และต่างชาติอย่างเข้มข้น รวมทั้งหากตรวจพบบริษัทนำเที่ยวใดใช้ไกด์เถื่อนก็จะสั่งพัก หรือเพิกถอนใบอนุญาตด้วย
ทั้งนี้ ในการประชุมยังได้มีการย้ำถึงกรณีของชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือเป็นไกด์ กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทันที และจะไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะถือว่าเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ส่วนผู้ประกอบการคนไทยก็ให้มาขออนุญาตให้ถูกต้อง รวมถึงเคาน์เตอร์ทัวร์ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมด้วย
