ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชายหาดภูเก็ตคลื่นลมแรง ซัดเต่าหญ้าขนาดใหญ่เกยหาดกมลา ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกอวนรัดขาหน้าขาด 1 ขา ส่วนอีกขาถูกอวนรัดเกือบขาด ส่วนกระดองมีบาดแผลเน่าเปื่อยหลายจุด เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ
วันนี้ (12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเต่าทะเลได้รับบาดเจ็บ และถูกอวนรัดขาหน้าด้านซ้ายขาด 1 ข้าง และขาหน้าด้านขวาหวิดขาดอีก 1 ข้าง ถูกคลื่นชัดมาเกยตื้นที่หาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงให้เจ้าหน้าที่ฯ รถบริการ 357 เดินทางไปรับเต่าตัวดังกล่าวนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ทำการรักษา และอนุบาล ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นลูกเต่าหญ้า อายุไม่ถึง 5 ปี ยังไม่สามารถระบุเพศได้ มีความยาว 56.9 เซนติเมตร กว้าง 56 เซนติเมตร น้ำหนัก 14 กิโลกรัม และพบบนกระดองมีแผลเปื่อยเน่าหลายจุด มีตะไคร่ขึ้นเกือบเต็มกระดอง
น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโมง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากรับเต่าตัวดังกล่าวแล้ว ตรวจสอบพบว่า เต่าหญ้ามีสภาพร่างกายอ่อนเพลีย มีสภาพร่างกายไม่แข็งแรง ระบบการทรงตัวไม่ดี เนื่องจากมีอาการป่วยจากภายใน และคาดว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำออกนอกฝั่งได้ จึงจำเป็นต้องฉีดยาบำรุง ยาฆ่าเชื้อ และทำการอนุบาลไว้ในถังรวมกับเต่าชนิดอื่นๆ ก่อนที่จะปล่อยกลับสู่ทะเล
น.ส.พัชราภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงนี้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง คลื่นสูง 3-4 เมตร ทำให้เต่าทะเล ที่เจ็บป่วย และได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงของชาวประมง เช่น เศษอวนชาวประมงมักตัดอวนทิ้งในทะเล ทำให้เต่าเหล่านี้ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจำนวนมาก ในขณะนี้มีเต่าไม่ต่ำกว่า 20 ตัว ที่ทางศูนย์ฯ รับมาเลี้ยง และทำการรักษา โดยเต่าเกือบทุกตัวถูกอวนรัดได้รับบาดเจ็บมา จึงอยากขอร้องชาวประมงว่าอย่าตัดอวนทิ้งในทะเล เพราะจะทำให้เต่าได้รับบาดเจ็บ เพราะปัจจุบันเต่าทุกชนิดเหลือน้อยมาก โดยเฉพาะเต่าหญ้า ทำการเพาะเลี้ยงยากมาก และช่วงนี้เต่าทะเลจะเข้าสู่ช่วงการผสมพันธุ์ ทำให้ลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำเป็นเวลานานจึงมักจะติดอวนของชาวประมง จึงขอให้ช่วยกันดูแลเต่าทะเลไว้ให้ลูกหลานเราได้ดูก่อนที่จะสูญพันธุ์
วันนี้ (12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเต่าทะเลได้รับบาดเจ็บ และถูกอวนรัดขาหน้าด้านซ้ายขาด 1 ข้าง และขาหน้าด้านขวาหวิดขาดอีก 1 ข้าง ถูกคลื่นชัดมาเกยตื้นที่หาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงให้เจ้าหน้าที่ฯ รถบริการ 357 เดินทางไปรับเต่าตัวดังกล่าวนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ทำการรักษา และอนุบาล ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นลูกเต่าหญ้า อายุไม่ถึง 5 ปี ยังไม่สามารถระบุเพศได้ มีความยาว 56.9 เซนติเมตร กว้าง 56 เซนติเมตร น้ำหนัก 14 กิโลกรัม และพบบนกระดองมีแผลเปื่อยเน่าหลายจุด มีตะไคร่ขึ้นเกือบเต็มกระดอง
น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโมง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากรับเต่าตัวดังกล่าวแล้ว ตรวจสอบพบว่า เต่าหญ้ามีสภาพร่างกายอ่อนเพลีย มีสภาพร่างกายไม่แข็งแรง ระบบการทรงตัวไม่ดี เนื่องจากมีอาการป่วยจากภายใน และคาดว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำออกนอกฝั่งได้ จึงจำเป็นต้องฉีดยาบำรุง ยาฆ่าเชื้อ และทำการอนุบาลไว้ในถังรวมกับเต่าชนิดอื่นๆ ก่อนที่จะปล่อยกลับสู่ทะเล
น.ส.พัชราภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงนี้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง คลื่นสูง 3-4 เมตร ทำให้เต่าทะเล ที่เจ็บป่วย และได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงของชาวประมง เช่น เศษอวนชาวประมงมักตัดอวนทิ้งในทะเล ทำให้เต่าเหล่านี้ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจำนวนมาก ในขณะนี้มีเต่าไม่ต่ำกว่า 20 ตัว ที่ทางศูนย์ฯ รับมาเลี้ยง และทำการรักษา โดยเต่าเกือบทุกตัวถูกอวนรัดได้รับบาดเจ็บมา จึงอยากขอร้องชาวประมงว่าอย่าตัดอวนทิ้งในทะเล เพราะจะทำให้เต่าได้รับบาดเจ็บ เพราะปัจจุบันเต่าทุกชนิดเหลือน้อยมาก โดยเฉพาะเต่าหญ้า ทำการเพาะเลี้ยงยากมาก และช่วงนี้เต่าทะเลจะเข้าสู่ช่วงการผสมพันธุ์ ทำให้ลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำเป็นเวลานานจึงมักจะติดอวนของชาวประมง จึงขอให้ช่วยกันดูแลเต่าทะเลไว้ให้ลูกหลานเราได้ดูก่อนที่จะสูญพันธุ์
