ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบโลมาอิรวดีเพศผู้ อายุ 15 ปี ในทะเลสาบสงขลาตายอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 4 ของปีนี้ เจ้าหน้าที่ผ่าซากพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ขอความร่วมมือชาวประมงร่วมอนุรักษ์ก่อนสูญพันธุ์ เนื่องจากจำนวนโลมาอิราวดีในทะเลสาบสงขลาอยู่ในช่วงวิกฤต
สถานการณ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลายังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีโลมาอิรวดีตายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในวันนี้ (27 ก.ค.) นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาด ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ได้รับการประสานจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบลูกโลมาอิรวดี เกยตื้นตายอีก 1 ตัว อยู่ริมเขื่อนชลประทานในทะเลสาบสงขลา พื้นที่ ม.4 ต.โรง อ.กระแสสินธุ์
หลังจาก นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง พร้อมเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบซากพบว่า โลมาอิรวดีเพศผู้ อายุ 15 ปี ความยาว 2 เมตร น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ตายมาแล้วประมาณ 5 วัน ท้องแตก สภาพเน่าเปื่อยไม่พบร่องรอยการติดอวนเครื่องมือการทำประมง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้นำซากมาผ่าพิสูจน์เก็บตัวอย่าง ตับ ไต เนื้อเพื่อตรวจชิ้นส่วนอวัยวะภายในนำมาวิเคราะห์หาโลหะหนัก และสาเหตุการตาย ก่อนที่จะนำซากไปฝังโดยห่อหุ้มด้วยอวนไนลอนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อรอเก็บกระดูกนำมาศึกษาวิจัยต่อไป โดยโลมาอิรวดีตัวนี้เป็นตัวที่ 4 ที่ตายในรอบปีนี้
นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า สถานการณ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาอยู่ในขั้นวิกฤตใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากตายทุกปี จากสถิติการตายของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา เมื่อปี 2553 โลมาตายไป 13 ตัว ปี 2554 ตาย 10 ตัว ปี 2555 ตาย 14 ตัว ปี 2556 ตาย 7 ตัว
ทั้งนี้ ได้ประสานขอความร่วมมือชาวประมงที่อยู่ในทะเลสาบสงขลา หากพบเห็นซากโลมาที่เกยตื้นอยากให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตายจะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปวางมาตรการอนุรักษ์ดูแลโลมาในทะเลสาบสงขลาต่อไป
