ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “สมัชชาสตูล” จัดเสวนาครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “เดินหน้าปฏิรูป สู่การจัดการตนเองอย่างสมานฉันท์” เน้นย้ำให้ประชาชนในท้องถิ่นร่วมจัดการชุมชนให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาแหล่งทรัพยากรทางทะเล
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล มีการจัดเสวนาสมัชชาคนสตูล ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “เดินหน้าปฏิรูป สู่การจัดการตนเองอย่างสมานฉันท์” โดยมี นายประยูร โขขัด ประธานสภาพัฒนาสวัสดิการสังคม อบจ.สตูล เป็นผู้เปิดงาน ซึ่งภายในงานมีประชาชนชาวจังหวัดสตูล และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังการเสวนาเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนของตนเอง ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภายในงานมีการเสวนา โดยมีบุคคลสำคัญซึ่งเป็นตัวแทนจากพื้นที่ตำบลต่างๆ ของจังหวัดสตูล เข้าร่วมเสวนา มีการพูดคุยกันในหลายประเด็น ได้แก่ ประเด็นท่องเที่ยว ประเด็นคุ้มครองผู้บริโภค ประเด็นคนพิการ ประเด็นประมงและทรัพยากรธรรมชาติ ประเด็นการจัดสวัสดิการชุมชน เป็นต้น พร้อมกับมีการเสนอแนะแนวทางส่งเสริมตำบลการจัดการตนเอง สู่การปกครองสมานฉันท์
ทั้งนี้ ในการเสวนามีใจความว่า ประชาชนในทุกตำบลของจังหวัดสตูล ควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเอง เนื่องจากเป็นประชาชนในพื้นที่เป็นกลุ่มบุคคลที่รู้เรื่องภายในชุมชนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการทางด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองให้สามารถนำมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ครอบครัว อย่างเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
ในประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องเกี่ยวกับ “อาหารทะเล” โดยนายนราธร พินิจสถิร เภสัชกรชำนาญการโรงพยาบาลละงู กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนโดยมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค หรือสาธารณสุขประจำจังหวัด หากได้รับความเดือดร้อนก็สามารถเข้ามาร้องเรียนต่อหน่วยงานดังกล่าวได้ และมีการออกตรวจคุณภาพของอาหารตามท้องตลาดโดยตลอด โดยเฉพาะการตรวจหาสารเคมีที่เจือปนอยู่ในอาหารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เป็นต้น
ที่ผ่านมา มีการทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการทำประมงอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาคือ จะต้องให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังต้องให้ความรู้แก่ชาวประมงถึงวิธีการทำประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะให้ประสบความสำเร็จได้จะต้องมีการร่วมมือกันของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ จะต้องสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มของชาวประมงในพื้นที่ ชาวประมงควรมีการจัดการตนเองเกี่ยวกับการทำประมง และจะต้องสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีจิตสำนึกในกาอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้คงความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาหารหลักของประชาชนทั้งประเทศตลอดไป
