กระบี่ - ผู้ประสานงานสภาคุ้มครองผู้บริโภค จี้สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบกะปิอย่างจริงจัง หลังพบกะปิปนเปื้อนยังมีวางจำหน่าย ติงผลการตรวจตัวอย่างกะปิออกมาล่าช้า ผ่านไป 3 เดือนกว่าจะเปิดเผยข้อมูล เป็นการเปิดช่องให้ผู้ผลิตเอาเปรียบผู้บริโภค
วันนี้ (6 ต.ค.) น.ส.อิสริน ไร่ใหญ่ ผู้ประสานงานสภาคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ มีการตรวจพบสารเคมี และสิ่งเจอปนในกะปิ จำนวน 7 ตัวอย่าง ที่ผลิตในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่งผลให้ประชาชนเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลที่ออกมาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบล่าช้า และยังขาดการประชาสัมพันธ์ เพราะมีการตรวจตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่กว่าจะมีการประกาศก็ผ่านไปกว่า 3 เดือน
ซึ่งผู้ผลิตอาจมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตลอดเวลา ส่วนใหญ่เพิ่งทราบข้อมูลจากสื่อนำข้อมูลมานำเสนอข่าวเท่านั้น แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสาธารธารณสุขจังหวัดกระบี่ ยังล่าช้าในการประชาสัมพันธ์ และไม่มีการออกสุ่มตรวจตามแผงจำหน่ายหลังตรวจพบสารปนเปื้อนแล้ว ซึ่งพบว่า มีกะปิอีกหลายรายที่มีสารปนเปื้อนวางขายตามท้องตลาด กว่าผู้บริโภคจะทราบข้อมูลสินค้าก็กระจายไปไกลแล้ว และที่สำคัญสาธารณสุขไม่เคยส่งข้อมูลให้แก่สภาคุ้มครองผู้บริโภค
น.ส.อิสริน กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายชื่อกะปิที่มีการตรวจพบสารเจือปนทั้ง 7 ตัวอย่างที่มีการนำเสนอผ่านสื่อนั้น ทางสภาคุ้มครองผู้บริโภคก็ยังไม่ได้รับข้อมูลจากสาธารณสุขแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อผู้บริโภคโดยตรง จึงเป็นการยากที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบในรายละเอียด และแนะนำให้ประชาชนสังเกตกะปิที่มีสารแปลกปลอมเบื้องต้น เช่น การสังเกตสี หรือกลิ่น เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ในระดับหนึ่ง เพราะนอกจากกะปิ 7 ตัวอย่างที่ทำการตรวจสอบแล้วในจังหวัดแล้ว ยังมีผู้ผลิตกะปิอีกหลายรายกระจายในหลายพื้นที่ และมีวางขายตามท้องตลาด
จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะผู้ผลิตบางรายตามที่ทราบข้อมูลมา ผ่านการตรวจบ้าง ไม่ผ่านบ้าง ซึ่งมีการผลิตออกมาจำนวนมาก ขณะที่วัตถุดิบซึ่งเป็นกุ้งธรรมชาติก็ขาดแคลนเพราะเป็นช่วงมรสุม จึงเป็นช่องทางให้ผู้ผลิตสามารถเอาเปรียบผู้บริโภคได้ตลอดเวลา จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง น.ส.อิสริน กล่าว
วันนี้ (6 ต.ค.) น.ส.อิสริน ไร่ใหญ่ ผู้ประสานงานสภาคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ มีการตรวจพบสารเคมี และสิ่งเจอปนในกะปิ จำนวน 7 ตัวอย่าง ที่ผลิตในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่งผลให้ประชาชนเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลที่ออกมาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบล่าช้า และยังขาดการประชาสัมพันธ์ เพราะมีการตรวจตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่กว่าจะมีการประกาศก็ผ่านไปกว่า 3 เดือน
ซึ่งผู้ผลิตอาจมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตลอดเวลา ส่วนใหญ่เพิ่งทราบข้อมูลจากสื่อนำข้อมูลมานำเสนอข่าวเท่านั้น แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสาธารธารณสุขจังหวัดกระบี่ ยังล่าช้าในการประชาสัมพันธ์ และไม่มีการออกสุ่มตรวจตามแผงจำหน่ายหลังตรวจพบสารปนเปื้อนแล้ว ซึ่งพบว่า มีกะปิอีกหลายรายที่มีสารปนเปื้อนวางขายตามท้องตลาด กว่าผู้บริโภคจะทราบข้อมูลสินค้าก็กระจายไปไกลแล้ว และที่สำคัญสาธารณสุขไม่เคยส่งข้อมูลให้แก่สภาคุ้มครองผู้บริโภค
น.ส.อิสริน กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายชื่อกะปิที่มีการตรวจพบสารเจือปนทั้ง 7 ตัวอย่างที่มีการนำเสนอผ่านสื่อนั้น ทางสภาคุ้มครองผู้บริโภคก็ยังไม่ได้รับข้อมูลจากสาธารณสุขแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อผู้บริโภคโดยตรง จึงเป็นการยากที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบในรายละเอียด และแนะนำให้ประชาชนสังเกตกะปิที่มีสารแปลกปลอมเบื้องต้น เช่น การสังเกตสี หรือกลิ่น เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ในระดับหนึ่ง เพราะนอกจากกะปิ 7 ตัวอย่างที่ทำการตรวจสอบแล้วในจังหวัดแล้ว ยังมีผู้ผลิตกะปิอีกหลายรายกระจายในหลายพื้นที่ และมีวางขายตามท้องตลาด
จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะผู้ผลิตบางรายตามที่ทราบข้อมูลมา ผ่านการตรวจบ้าง ไม่ผ่านบ้าง ซึ่งมีการผลิตออกมาจำนวนมาก ขณะที่วัตถุดิบซึ่งเป็นกุ้งธรรมชาติก็ขาดแคลนเพราะเป็นช่วงมรสุม จึงเป็นช่องทางให้ผู้ผลิตสามารถเอาเปรียบผู้บริโภคได้ตลอดเวลา จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง น.ส.อิสริน กล่าว