สตูล - ครูสาวชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ จบครูรีบกลับมาสอนพี่น้องบนเกาะ หวังให้มีความรู้เท่าทันคน เผยความรู้สึกความเจริญกระทบด้านสังคม วัฒนธรรมเกาะหลีเป๊ะ วอนทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อเด็กนักเรียนให้มากกว่าการพัฒนาเกาะ ก่อนที่จะสายเกินไป
วันนี้ (10 ก.ย.) เกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่า เป็นมัลดีฟส์เมืองไทย เมืองแหล่งท่องเที่ยวทะเล ที่มีการพัฒนาด้วยการรุกล้ำวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ และการเจริญเติมโตของผังเมืองบนเกาะ ทำให้วิถีชีวิตชาวเลที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบด้านสังคม และวัฒนธรรมแก่ชาวเล กลุ่มชาติพันธุ์อุรักลาโว้ย บนเกาะหลีเป๊ะ โดยเฉพาะเยาวชนเด็กๆ ส่งผลถึงลูกหลานที่เป็นนักเรียนจนทำให้ครูอาจารย์เป็นห่วงลูกศิษย์ ว่าอนาคตจะหมดไปกับความเจริญที่เข้ามาจนทำให้เด็กๆ ลืมวิถีชีวิตชาวเลในอนาคต
น.ส.แสงโสม หาญทะเล เด็กสาวชาวเลที่สนใจการเรียนจนจบปริญญาตรี และกลับมาเป็นครูสอนพี่น้องชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ มองว่า ญาติพี่น้องให้มีความรู้เท่าทันคนในยุคปัจจุบัน หลังพบว่า ที่ผ่านมา ญาติพี่น้องไม่รู้หนังสือ และกฎหมายของไทย ถูกนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่ดินหลอกให้ขาย หลอกให้ติดหนี้ จนไม่มีเงินส่งลูกหลานเรียน และส่งผลทำให้ลูกหลานต้องออกจากโรงเรียนมาหางานทำ รวมทั้งลืมวัฒนธรรมชาวเลจนสิ้น หันไปมั่วสุมกับยาเสพติดที่มีมากขึ้นกับการเจริญเติบโตของเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้
ด้าน น.ส.แสงโสม หาญทะเล ครูชาวเลโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง จ.สตูล กล่าวว่า หากมองภาพของการพัฒนาในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะแล้ว นับวันจะยิ่งพัฒนาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านถนนหนทาง ไฟฟ้า การโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะหลีเป๊ะ ที่ขณะนี้ติดระดับโลกไปแล้ว แต่ถ้าหันมามองว่าการพัฒนาด้านการศึกษาของเด็กในพื้นที่แห่งนี้ การเรียนของเด็กนั้น ได้แค่เพียงอ่านออกเขียนได้ และเมื่อจบชั้น ป.6 หรือ ม.3 แล้ว ก็จะออกไปทำงานกับพ่อแม่ ความรู้ที่ได้ก็จะได้เพียงอ่านออกเขียนได้ และหากเปรียบเทียบกับเด็กที่อื่นที่จะต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมมีการแข่งขันทางด้านการศึกษานั้นถือว่าเด็กชาวเลที่นี่ยังขาดโอกาสอีกมาก
ประกอบกับการพัฒนาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ที่นับวันจะยิ่งเจริญรุดหน้ามากยิ่งขึ้น มีอาคารบ้านเรือน สถานที่พักที่นับวันเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนทางที่จะเดินก็ไม่มี ทำให้เรามองย้อนกลับไปว่า แล้วอนาคตของเด็กพวกนี้ต่อไปจะไปทำอะไร หรือได้แต่เพียงใช้แรงงานเท่านั้น ดังนั้น ตนเองจึงอยากจะบอกว่า หน่วยงานทางภาครัฐในพื้นที่ของ จ.สตูลเอง น่าที่จะให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น อย่ามัวแต่เอางบประมาณลงมาเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น น่าที่จะนำมาพัฒนาด้านการเรียนการสอนให้แก่เด็กบ้าง เด็กพวกนี้อนาคตก็คือผู้ใหญ่ในวันหน้า เพราะหากมองแล้วการพัฒนาเกาะหลีเป๊ะนั้น พัฒนาเพียงด้านวัตถุเท่านั้น ไม่ได้มีการพัฒนาคนควบคู่ไปด้วย