ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ จัดกิจกรรมตลาดเชื่อมโยงการผลิตระหว่างผู้ผลิต และผู้ค้าปลายทาง และส่งเสริมการบริโภคลำไยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน จัดกิจกรรม “การตลาดเชื่อมโยงการผลิตระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลายทาง และส่งเสริมการบริโภคลำไยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต” ภายใต้โครงการยกระดับการแข่งขันสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน และมูลค่าเพิ่ม เพื่อเชื่อมโยงการตลาดระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้รวบรวมลำไยกับผู้ค้าปลายทาง และส่งเสริมการบริโภคลำไย ได้รับเกียรติจาก นางวิชชุดา กันตีวงศ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม และคุณค่าของลำไย โดยมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย การค้าภายในจังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ผู้แทนพาณิชย์จังหวัด ผู้แทนสหกรณ์การเกษตร ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนสภาอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และอาหารในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนเกษตรกรผู้ประกอบการค้าลำไยแปรรูปจากจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ทั้งนี้ ได้มีการนำผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลำไยมานำเสนอและเจรจาธุรกิจระหว่างกันด้วย โดยดำเนินการใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งภูเก็ตเป็นจังหวัดสุดท้าย ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
นางวิชชุดา กันตีวงศ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น เป้าหมายแรก เพื่อมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าการบริโภคลำไยอย่างรู้คุณค่าเป็นอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมา คนไทยจะรู้จัดลำไยในแง่ที่ว่า กินลำไยสดมากจะร้อนใน ตาแฉะ และเจ็บคอ ทำให้มีการบริโภคน้อย ตลาดส่วนใหญ่จึงเป็นตลาดต่างประเทศ แต่ความจริงคุณค่าของลำไยมีมากกว่าที่เราคิด เป้าหมายต่อมา คือ ต้องการให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจ ผู้ค้าผู้ประกอบการ ได้นำสินค้ามาแลกเปลี่ยน และเปิดตลาดใหม่ๆ เนื่องจากมองว่า หากมีของดีจะต้องมีการนำเสนอต่อผู้บริโภค ไม่ใช่รอให้ผู้ซื้อเข้าไปหาในพื้นที่เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้เครือข่ายมีการเติบโตไปด้วยกัน และมีลู่ทางการค้ามากขึ้น
“การมาเปิดตลาดในภาคใต้ฝั่งอันดามัน เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงทั้งคนพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว ซึ่งเป้าหมายวางไว้ 2 ระดับ คือ คนพื้นที่เอง ซึ่งเราต้องการให้รู้จัก และบริโภคลำไยในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น นอกเหนือจากการบริโภคเพียงลำไยสด กับการเปิดตลาดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งรู้จักลำไยและคุณค่าของลำไยดีอยู่แล้ว” นางวิชชุดา กล่าว