ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผบ.มทบ.33 เตรียมเชิญผู้ประกอบการรับซื้อลำไยในพื้นที่เชียงใหม่-ลำพูนทั้งหมดเข้าหารือเพื่อกำชับให้รับซื้อผลผลิตจากชาวสวนตามราคาที่ตกลงกันไว้ พร้อมจัดส่งกำลังพลประจำทุกล้งคุมซื้อขาย หลังเกษตรกรเดือดร้อนหนักเนื่องจากถูกกดราคาและปัดรับซื้อ
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่สโมสรกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไยจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนที่เป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือ เดินทางเข้าพบและประชุมหารือร่วมกับ พล.ต.ศรายุทธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33
ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือให้การแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำและผู้ประกอบการไม่รับซื้อผลผลิตตามราคาที่ได้เคยมีการทำข้อตกลงร่วมกันไว้ด้วยวาจาตามที่ฝ่ายทหารได้เป็นคนกลางในการเจรจาทำข้อตกลง โดยการเรียกร้องครั้งนี้ต้องการที่จะให้ส่งตรงถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับเกษตรกรชาวสวนลำไยว่า เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าทางทหารจะเป็นคนกลาง เชิญผู้ประกอบการหรือล้งทุกรายในพื้นที่มาพูดคุยทำความเข้าใจและตกลงร่วมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) เพื่อขอให้รับซื้อลำไยในราคาที่ได้เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะรับซื้อลำไยขนาด AA, A และ B ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท, 10 บาท และ 5 บาท ตามลำดับ
จากนี้จะมีการจัดกำลังทหารไปประจำล้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีการรับซื้อตามราคาที่ตกลงกันไว้หรือไม่ หากยังพบว่าไม่ได้รับซื้อตามที่ราคาที่ตกลงกัน จะมีการประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อใช้อำนาจประกาศกำหนดราคาต่อไป
ขณะที่นายบัญชาการ พลชมชื่น กรรมการองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวสวนลำไยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่ผู้ประกอบการหรือล้งไม่รับซื้อลำไยตามราคาที่ตกลงกันไว้ แต่กลับรับซื้อในราคากิโลกรัม 13 บาท 6 บาท และ 2-3 บาท เท่านั้น ซึ่งทำให้ชาวสวนขาดทุนและได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนต้องเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
เบื้องต้นพอใจกับมาตรการที่ทางผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 รับที่จะไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ อย่างไรก็ตามจะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อาจจะมีความจำเป็นต้องเคลื่อนไหวอื่นๆ
นอกจากนี้ กรรมการองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือแสดงความเห็นว่า มาตรการที่รัฐมีการอุดหนุนเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการสำหรับการกระจายผลผลิตลำไยสดออกนอกแหล่งผลิตกิโลกรัมละ 3 บาทนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยเลย แต่เหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการที่รับซื้อลำไยมากกว่า
ทั้งนี้ มองว่าหากต้องการช่วยเหลือชาวสวนลำไยจริงควรนำเงินมาใช้ในการรับซื้อหรือชดเชยส่วนต่างราคาให้ชาวสวนลำไยจะดีกว่า และน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลงได้มาก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือได้เตรียมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการพูดคุยหารือร่วมกับทางผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 แล้ว ได้ตัดสินใจยกเลิกการเดินทางดังกล่าวแล้ว