ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นั่งหัวโต๊ะถกแก้ปัญหาราคาลำไยตกต่ำช่วงโค้งสุดท้าย ดึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง 8 จังหวัดภาคเหนือ หารือร่วมกับแกนนำชาวสวน และผู้ประกอบการรับซื้อ สรุปทุกฝ่ายพอใจยอมรับให้มีการใช้กฎหมายพาณิชย์ประกาศราคาแนะนำ AA, A และ B กิโลกรัมละ 17, 7 และ 4 บาท เหมือนกันทั้งภาคเหนือ หากพบล้งไม่รับซื้อจะตรวจสอบเข้ม และลงโทษตามกฎหมาย
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทาง และทำความตกลงร่วมมือในการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนกรณีปัญหาราคาลำไยสดรูดร่วงตกต่ำ ตามที่ได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือ
โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด การค้าภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน รวมทั้งแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกลำไยจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน พร้อมทั้งผู้ประกอบการรับซื้อลำไย และอบแห้งลำไย
ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากการพูดคุยหารือทุกฝ่ายมีข้อสรุป และข้อตกลงร่วมกันที่จะให้มีการกำหนดราคารับซื้อลำไยสดรูดร่วง เกรด AA, A และ B ที่หน้าโรงงานในราคากิโลกรัมละ 17 บาท, 7 บาท และ 4 บาท ตามลำดับ ขณะที่จุดร่อนให้รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 16 บาท, 6 บาท และ 3 บาท ตามลำดับ โดยจะมีการใช้กฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ในการออกประกาศราคาแนะนำดังกล่าวบังคับใช้ให้มีการรัฐซื้อในราคาเดียวกันนี้เหมือนกันหมดทุกจังหวัดในภาคเหนือที่ผลผลิตลำไย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้ (23 ส.ค.) เป็นต้นไป
สำหรับในกรณีที่พบ หรือมีการให้ข้อมูลจากเกษตรกรว่า มีผู้ประกอบการรายใดที่ไม่รับซื้อลำไยตามราคาแนะนำดังกล่าว หรือหยุดรับซื้อโดยไม่มีเหตุผล ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจข้อมูล และบัญชีการซื้อขายของผู้ประกอบการรายนั้นในเชิงลึกและอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งลงโทษตามกฎหมายหากพบว่ามีการกระทำความผิด
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าทางผู้ประกอบการทุกรายจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเวลานี้ทั้งภาคเหนือเหลือลำไยที่จะออกสู่ท้องตลาดอีกประมาณ 70,000 ตัน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของผลผลิตทั้งหมดเท่านั้น ในจำนวนนี้เป็นของจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 30,000 ตัน
ขณะที่ นายประเทือง คงรอด แกนนำองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือ กล่าวว่า เบื้องต้นข้อตกลงดังกล่าวถือว่าเป็นที่ยอมรับได้ ที่จะมีการนำกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์มาบังคับใช้ให้มีการรับซื้อลำไยในราคาดังกล่าวนี้เหมือนกันหมดทุกพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะขณะนี้ เหลือลำไยให้ชาวสวนเก็บนำออกมาขายได้อีกไม่มากแล้วก็จะสิ้นสุดช่วงเก็บเกี่ยวของปีนี้