ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบถังแก๊สปิคนิคเตรียมประกอบระเบิดแสวงเครื่องกลางเมืองหาดใหญ่ รอแนวร่วมชุดที่ 2 บรรจุระเบิด โชคดี ตร.พบก่อน ขณะที่ ตร.มาเลเซีย จับกุม 4 แนวร่วมหนีกบดานแนวตะเข็บชายแดน พร้อมอาวุธเพียบ
วันนี้ (3 ก.ย.) พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง เป็นถังแก๊สปิคนิค ขนาด 5 กิโลกรัม ซ่อนอยู่ในพงหญ้า ริมถนนจันทคาร ซอย 6 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ถังแก๊สดังกล่าวมีการตัดต่อให้สามารถบรรจุดินระเบิดได้ แต่ยังไม่ได้ประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องอย่างสมบูรณ์ จึงได้ทำการตรวจสอบดีเอ็นเอ และหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย
โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า แนวร่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ มีแผนที่จะก่อวินาศกรรม โดยระเบิดแสวงเครื่องในถังแก๊ส โดยคนร้ายชุดแรกมีหน้าที่ในการเจาะถังแก๊สเพื่อบรรจุดินระเบิด และนำมาซ่อนไว้ในบริเวณดังกล่าว เพื่อรอให้คนร้ายชุดที่ 2 นำถังแก๊สไปประกอบระเบิด และคนร้ายชุดที่ 3 จะเป็นผู้นำระเบิดไปก่อวินาศกรรมยังเป้าหมาย ซึ่งเป็นวิธีการของคนร้ายที่จะทำให้คนร้ายทั้ง 3 ชุด ไม่รู้จักกัน เป็นการคัตเอาต์เพื่อมิให้ถูกจับกุม
ในขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงของประเทศมาเลเซียว่า เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งตรงกับเวลา 14.00 น. ในประเทศไทย ทางการทหารกองพลน้อย ร.8 ซึ่งรับผิดชอบชายแดนไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่ อ.ตากใบ-อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยบริเวณท่าเรือกัวลาจัมมู ตุมปัต อยู่ตรงข้าม บ.กอลอตะ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สามารถจับกุมตัว นายอิสบุลเลาะ สะนิ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านไพรวัลย์ อ.ตากใบ แกนนำระดับสั่งการ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่เขตรอยต่อ อ.ตุมปัด รัฐกลันตัน มาเลเซีย กับ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ประเทศไทย พร้อมอาวุธปืน 4 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม16 2 กระบอก ปืน เอชเค44 1 กระบอก และเอเค47 1 กระบอก
โดย ดาโต๊ะ พลตรี อัซมี dato'azmy ผบ.พล.น้อย.ร.8 รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการติดตามด้านการข่าวของฝ่ายการข่าวมาเลเซียว่า มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในประเทศไทย ได้หลบหนีมากบดานในพื้นที่รอยตะเข็บรอยต่อ หลังจากที่ได้ก่อเหตุในเขตประเทศไทย จึงได้สนธิกำลังตำรวจ และทหารเข้าจับกุมตัวมาได้ แต่ได้หลบหนีการจับกุมไป 3 คน ซึ่งมีรายชื่อผู้หลบหนีแล้ว แต่คงกลับมาหลบซอนตัวในประเทศไทย ทางการไทยหมดสิทธิขอตัวโจรใต้มาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ เนื่องจากไทยกับมาเลย์ไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวข้องกับคดี นายอิสบูเลาะ สะนิ หรือบิน มูฮำหมัด อาจโดนข้อหาหนัก เนื่องจากครอบครองอาวุธสงครามถึง 4 กระบอก มีรายงานแจ้งเพิ่มเติมว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สามารถจับกุมตัว นายอิสบูเลาะ บิน มูฮำหมัด ผู้ต้องหายิงนางสมศรี ธัญญะเกษตร ครูโรงเรียนบ้านโคกมือบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งได้หลบหนีข้ามแดนไปกบดานในหมู่บ้าน รัฐกลันตัน ฝั่งตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมได้นำอาวุธปืนสงคราม จำนวน 4 กระบอก ซึ่งเป็นปืนของตำรวจ สภ.ตากใบ ที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2557 และคนร้ายได้ยึดอาวุธดังกล่าวไปด้วย
ส่วนกรณีการจะขอตัว นายอิสบูเลาะ บิน มูฮำหมัด มาดำเนินคดีในประเทศไทย ได้รับการเปิดเผย จากนายสมศักดิ์ สิทธิวรการ นายอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส ระบุว่า ไม่สามารถขอตัว นายอิสบูเลาะ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ เนื่องจากประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน การเอาผิดต่อ นายอิสบูเลาะ จะต้องรับโทษตามกฎหมายของประเทศมาเลเซียเท่านั้น ซึ่งมีข้อหาหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว เนื่องจากการครอบครองอาวุธสงครามถึง 4 กระบอกด้วยกัน ปัญหาผู้ร้ายหลบหนีข้ามแดนไปกบดานยังประเทศมาเลเซีย เป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว ซึ่งบุคคลเป้าหมายที่หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่หลายคนด้วยกัน เป็นบุคคล 2 สัญชาติ เมื่อทำการก่อเหตุแล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติในฝั่งมาเลเซียเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มาถึงยุค คสช.ยุคที่ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศที่มีความขัดแย้ง มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเต็มคณะ และสามารถสั่งการแก้ไขปัญหาได้เต็มร้อย โดยเฉพาะปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างเต็มสูบ เต็มกำลัง ในเบื้องลึก ระดับบิ๊กทหาร คสช.มีการต่อสายตรงถึงผู้กุมอำนาจทหารมาเลเซีย เพื่อให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน หากเป็นเช่นนั้นจริง ต่อไปนี้ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ใช้วิธีการเดิมๆ ก่อเหตุแล้วหลบหนีกบดานประเทศมาเลย์คงจะยากขึ้น และการจับกุมนายอิสบูเลาะ บิน มูฮำหมัด ในครั้งนี้จะเป็นผลงานชิ้นแรกที่พิสูจน์ความจริงใจของทางการมาเลเซีย
สำหรับ นายอิสบูเลาะห์ สะนิ หรือบินมูฮำหมัด ผู้ต้องหารายนี้ เป็นแกนนำระดับสั่งการ โดยมีลูกสมุนอีก 3 คน คือ นายนิเซ็ง นิสุหลง นายมาหามะมิง มามะ และอีกคนไม่ทราบชื่อ ทั้งหมดมีคดีฆ่าในพื้นที่ อ.ตากใบ หลายคดี โดยคดีล่าสุด ก่อเหตุลอบวางระเบิดและยิง จนท.ตำรวจ นปพ.ตากใบ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2557 ที่ผ่านมา