ตรัง - ผู้ประกอบการธุรกิจประมงกันตัง จ.ตรัง เจอวิกฤตหนัก เหตุต้นทุนราคาน้ำมันพุ่งสูง สัตว์ทะเลลดน้อยลง เมื่อกลับฝั่งแรงงานต่างด้าวหายกว่า 50% โดยหันไปทำงานอื่นแทน แนะจัดระบบแรงงานต่างด้าวให้มีระบบ
วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองแสน กลิ่นประทุม ผู้จัดการแพปลาปรีชาสุมทร อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้การประกอบธุรกิจประมงมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งอดีต โดยเฉพาะต้นทุนต่างๆ ที่พุ่งสูงมากขึ้น แต่กำไรที่ได้รับกลับลดน้อยลง นับตั้งแต่ปัญหาราคาน้ำมันที่ขยับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำที่ลดลงเยอะจนทำให้ต้องออกไปจับปลาไกลขึ้น ส่วนเรือ และเครื่องมือก็ต้องทันสมัยมากขึ้น หรือมีการเปลี่ยนใบจักร เปลี่ยนเกียร์ เปลี่ยนเพลาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้เกิดความคุ้มค่าสำหรับออกไปทะเลนานๆ รวมทั้งประหยัดทุกวิถีทาง เช่น ลดการใช้น้ำมัน จากวันละ 600 ลิตร เหลือแค่ 480 ลิตร
สำหรับแรงงานต่างด้าวก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่แก้ไม่ตก โดยเรือลำหนึ่งๆ จะต้องจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกน้อง ที่มีอยู่ลำละ 8-10 คน ครั้งละประมาณ 1.5 แสนบาท แต่เมื่อกลับเข้าฝั่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ก็จะหายไปถึง 50% เพื่อไปทำงานอื่นแทน เช่น ก่อสร้าง สวนยางพารา ทำให้แพปลาต้องไปหาลูกน้องใหม่มาทำงานอีก ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจประมงจึงเห็นดีด้วยต่อการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพราะต้องยอมรับว่า มีบางคนที่ทำตัวไม่ดี และยังเป็นการเข้ามาแพร่เชื้อโรค และปัญหาอื่นๆ อีกด้วย พร้อมเสนอให้แรงงานต่างด้าวที่ตั้งท้องกลับไปคลอดลูกยังประเทศของตัวเอง เพื่อมิให้เด็กเหล่านี้ต้องมาเป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขของไทย
นายสมพล จิโรจน์มนตรี นายกสมาคมประมงกันตัง เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำประมงในพื้นที่มีความย่ำแย่มาโดยตลอด และหนทางภายภาคหน้าก็ยิ่งมืดมน เพราะในช่วงเวลา 1 ปี จะสามารถออกเรือได้แค่ 5-6 เดือนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องเจอกับมรสุมจนออกทะเลไปไม่ได้ ประกอบกับมาเจอกับปัญหาน้ำมันแพง วัตถุดิบหายาก และแรงงานขาดแคลนด้วย ทำให้เรือประมงของอำเภอกันตัง จากเดิมที่เคยมีมากถึง 300 ลำ กลับเหลือเพียงแค่ 180 ลำ หรือหายไป 30-40% เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายยอมจอดเรือ ขายเรือ หรือถึงขั้นทิ้งเรือไปเลย อีกทั้งขณะนี้ก็ยังมีกำไรเหลือไม่ถึง 20% โดยส่วนใหญ่พอจะคุ้มทุน หรือพออยู่ได้เท่านั้น