เอสซีจี เปิดตัว”อาคารเอสซีจี 100 ปี” ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานยั่งยืน คำนึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงานและคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ประธานคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี แถลงข่าวเปิดอาคารเอสซีจี 100 ปี ต้นแบบอาคารยั่งยืนที่เคารพต่อธรรมชาติว่า อาคารเอสซีจี 100 ปีเป็นอาคารที่ออกแบบและก่อสร้างโดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร เพื่อเป็นองค์กรต้นแบบของอาคารสำนักงานที่ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนได้รับการรับรองมาตรฐานประเภทอาคารสร้างใหม่ระดับสูงสุด (LEED BD+C Platinum) จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่มีความเข้มข้นและเป็นที่ยอมรับระดับโลก
โดยอาคารเอสซีจี 100 ปี มี 21 ชั้น พื้นที่รวม 3.7 หมื่นตร.ม. และอาคารอเนกประสงค์ 10 ชั้น พื้นที่รวม 3 หมื่นกว่าตร.ม. ใช้งบประมาณกว่า 3,300 ล้านบาท เวลาก่อสร้าง 3ปีจึงแล้วเสร็จ แม้ว่าจะมีผลตอบแทนในเชิงธุรกิจเทียบไม่ได้กับการปรับปรุงกระบวนการผลิต แต่ในมุมของการช่วยกันดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมถือว่าคุ้มค่ามาก
อาคารเอสซีจี 100 ปี มีจุดสังเกต (Landmark) คือ รูปทรงพลิ้วไหวเป็นเอกลักษณ์ ไม่เป็นรูปทรงเรขาคณิต เป็นตัวแทนอาคารสำนักงานคนรุ่นใหม่ และมีการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต รวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิล ได้แก่ การติดตั้งกระจกสองชั้น ลดความร้อนเข้าสู่อาคาร ใช้ระบบแสงสว่างหลอดประหยัดไฟฟ้าT5 หลอด LED รวมทั้งการติดตั้งโซลาร์ พาเนล เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ผลิตไฟฟ้าในตัวอาคารได้ปีละ 9.9 หมื่นกิโลวัตต์ชั่วโมง มีระเบียงอาคารอบ360 องศา ซึ่งเป็นส่วนช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัว
นอกจากนี้ ยังลดการใช้น้ำโดยนำน้ำฝนและน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดแล้ว 100% มาชำระล้างสุขภัณฑ์และรดน้ำต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบตัวอาคาร ให้มีความร่มรื่น มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 50 %ของพื้นที่เปิดโล่ง เป็นต้น โดยอาคารดังกล่าวนี้ยังสามารถรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ประมาณ 7.2 ริกเตอร์
นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อไปว่า เอสซีจี ได้นำแนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนขององค์กรและชุมชนโดยรอบ ผสานกับวัฒนธรรม วิสัยทัศน์ขององค์กร ความต้องการของคนรุ่นใหม่ (Generation X and Y) ที่กำลังเข้ามาเป็นทรัพยากรหลักของเอสซีจีนำเป็นสู่การออกแบบอาคารเอสซีจี 100 ปี